จะป้องกันไม่ให้นิกันติวิปัสสนูปกิเลสอยู่ในจิตได้อย่างไร
ท่านอาจารย์ครับ ผมได้พิจารณาธรรมกระจ่างเรื่อง ความว่าง แล้วได้ระลึกถึงวิปัสสนูปกิเลส "นิกันติ" ว่ากิเลสตัวนี้ช่างร้ายกาจ เหมือนเป็นกิเลสซ่อนเร้น เห็นยาก และดูเหมือนทับซ้อนอยู่กับสันโดษ ทำให้เราตายใจ แต่ก็พาพลาดโอกาสหรือฉิบหายในชาติการเกิดได้ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสอนเรื่องนี้เลย เรียนถามอาจารย์ว่า เราจะป้องกันภัยเงียบ "นิกันติ" ไม่ให้แอบอิงอาศัยในจิตได้อย่างไรครับ ขอบพระคุณครับ
การตรวจวินิจฉัยนิกันติ
ก่อนอื่นเข้าใจสภาวะจิตหกสภาวะก่อนนะ
ฉันทะ ความยินดีทำให้เรามุ่งมั่นในกิจพัฒนาการนั้น ๆ แล้วส่งสู่วิริยะเพื่อความสำเร็จ และการบรรลุธรรม
สันโดษ ความยินดีทำให้เราดูดซับคุณค่าของภาวะนั้น ๆ แล้วปรับเกณฑ์หาความพอเหมาะพอดี ที่แม่นยำสู่ความคุ้มค่า การปฏิบัติง่ายสำเร็จง่าย และการบรรลุธรรม
มุทิตาเจโตวิมุตติ เป็นความยินดีหมดจด เป็นสมาธิที่ผ่องใส นำสู่อุเบกขาฌาน หรืออุปสมานุสติเข้าพระนิพพาน อย่างใดอย่างหนึ่ง
ความเพียร เป็นค่ากลาง หากเพียรในการปฏิบัติเพื่อความบริสุทธิ์ เป็นคุณธรรม แต่หากเพียรสนองกิเลส เป็นอธรรม
นิกันติ ความพอใจแล้ว ไม่พัฒนาอะไรอีกแล้ว เป็นวิปัสสนูกิเลส เป็นตัวดับวิริยะ ปิดพัฒนาการ และกั้นความเจริญ
วิมุตติ ความหลุดพ้นสิ้นเชิง อวิชชาดับสูญ ปรากฏพุทธะ รู้ ตื่น เบิกบาน อมตะ เที่ยงแท้แน่นอน ตลอดกาล สภาวะนี้พ้นแม้จากความพอและความไม่พอ อะไรควรทำก็ทำอย่างอิสระเหนือ อะไรไม่ควรทำก็ไม่ทำอย่างอิสระสมบูรณ์
เมื่อเข้าใจทั้งหกสภาวะนี้แล้ว ก็จะเห็นและวินิจฉัยนิกันติได้ชัด ตราบใดก็ตามที่จิตยังไม่บริสุทธิ์หลุดพ้น ผ่องใสด้วยรู้ตื่นเบิกบาน อิสระเหนือขันธ์ เหนือโลก แต่เกิดความพอใจในภาวะจิตหนึ่ง ๆ จนไม่ขวนขวายพัฒนาต่อ นั่นเป็น "นิกันติ"
การป้องกันนิกันติ
Set หลักเกณฑ์ไว้ในใจว่า
แม้เรามีทรัพย์มากมาย เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะทรัพย์ไม่ใช่ค่าที่แท้จริงของเรา เป็นเพียงมรดกของความขยันด้วยปัญญาที่เชื่อถือได้เท่านั้น และแม้จะมีทรัพย์มากเพียงใด เราก็ต้องแก่ เจ็บ ทุกข์ พลัดพราก และตาย เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามียศมากมาย เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะยศไม่ใช่ค่าที่แท้จริงของเรา เป็นเพียงค่าสัมพัทธ์ของคุณของเรา กับผู้ที่ปรารถนาพึ่งเราเท่านั้น และแม้จะมียศใหญ่เพียงไร เราก็ยังเป็นผู้แบกภาระ หนักใจ ผิดหวัง กับการปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นอยู่เนือง ๆ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีสรรเสริญมากมาย เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะสรรเสริญเป็นเพียงการประกาศความนิยมของผู้ที่ปรารถนาในคุณค่าที่เรามีเท่านั้น เพียงให้โอกาสเขา แต่แม้คนจะสรรเสริญเรามากเพียงใด ก็ยังมีบางคนนินทา ทำให้เจ็บปวดบ้าง เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีสุขมากมาย เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะสุขไม่ใช่ค่าคงที่ เป็นเพียงความลงตัวของภาวะเรากับภาวะแวดล้อมเท่านั้น และแม้เราจะมีความสุขมากเพียงใดก็ยังต้องอยู่ในโลกอนิจจัง มีวิกฤติภัยธรรมชาติเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ มีวิกฤติภัยที่มนุษย์สร้างเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีการให้ทานมากมาย เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะผลทานเป็นบุญที่ใช้แล้วหมดไป เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีศรัทธาสมาทานไตรสรณคมน์มั่นคง เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะศรัทธาสมาทานไตรสรณคมน์ยังทำให้เรายังเป็นเด็กที่ต้องพึ่งพิงอยู่ ยังไม่เป็นหนึ่งในไตรรัตน์ด้วยตนเอง เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีศีลตั้งมั่น เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะศีลคุ้มครองเราได้ในโลกที่ยอมรับศีลเท่านั้น ในโลกที่ไม่มีระบบศีล ศีลของเราจะเป็นเรื่องผิดวัฒนธรรมของโลกยุคนั้นได้ และอันตรายจักเกิดแก่เราเพราะความแตกต่าง เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีสมาธิผ่องใส เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะสมาธิเป็นวิหารธรรมที่อยู่สบายแห่งจิต เพื่อวิปัสสนาเจริญญาณต่อไป สมาธิยังไม่ใช่ที่สุด เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้จิตเรามีแสงสว่างไสวมาก เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะเทวดาทุกท่านก็มีแสงจิต แต่ก็ยังต้องเกิด แก่ และตายอีก เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีญาณแจ่มชัดมาก เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะเช่นท่านพระอนุรุทธรู้ทั่ว 1000 โลกธาตุ (กาแลกซี่) ด้วยทิพจักขุญาณ ก็ยังไม่หลุดพ้นเพราะญาณนั้น ต้องละมานะในรู้นั้น แล้วน้อมสู่อมตธาตุ จึงหลุดพ้นได้ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีปีติในธรรมและในฌานมหาศาล เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะปีติเป็นเจตสิก เกิดแล้ว ดับไป ตามธรรมชาติ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีปัทสัทธิ จิตสงบตั้งมั่นดี เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะความสงบไม่คงที่ถาวร ทั้งยังต้องคอยตามรักษา ครั้นมีผัสสะหยาบจะเสียดแทงจิตสงบมาก เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีสุขลึกซึ้งยิ่งกว่าก่อน ๆ เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะสุขที่ไม่บริสุทธิ์ยังไม่อมตะ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีอธิโมกข์ ปล่อยวางสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเด็ดขาด เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะการปล่อยวางสิ่งที่ไม่ควรปล่อยก็ทำให้ลำบากได้ และความเด็ดขาดก็มักทำให้เสียสัมพันธ์โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีความเพียรเอกอุ เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะความเพียรอุกฤษฏ์ มักทำให้เราเลยเป้าหมายได้ และแม้ความเพียรดับกิเลสได้หลายตัว แต่ยังทำให้เกิดมานะกิเลสงอกว่าตนเก่งขึ้นมาอีก กิเลสกำเริบได้อีก เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีอุปัฏฐาน สติตั้งมั่น เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะสัตว์ทั้งหลายก็มีสติ โจรก็มีสติ นักกีฬาก็มีสติ ทหารในสงครามก็มีสติ ด้วยสติที่ยังไม่หลุดพ้น ยังไม่ใช่เขตปลอดภัย เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีอุเบกขามั่นคง เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะอุเบกขามีปัญญาอยู่เบื้องหน้า มีโมหะอยู่เบื้องหลัง ยังมีความเสี่ยงอยู่ และต้องคอยตามรักษาจึงจะตั้งมั่นได้ดี เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เราได้จิตว่างแล้ว เราจะไม่หยุดวิวัฒนาการแค่นี้ เพราะอรูปพรหมทั้งหมดก็ทรงจิตว่างอย่างมั่นคง แต่ยังต้องเกิดและตายอยู่ เราจะเพียรยกระดับวิวัฒนาการต่อไป
แม้เรามีนิกันติ ความพอใจอย่างไร หากสภาวะยังไม่บริสุทธิ์ ไม่เบิกบานตลอดกาล ไม่อมตะ เราจะไม่หยุดภาวนา
สรุป
ในโลกแห่งการปฏิบัติธรรมนั้น นักปฏิบัติจะพบความอัศจรรย์เหนืออัศจรรย์หลายชั้นมาก เพราะ purity ก็ดี perfection ก็ดี มีค่าที่ infinity
เมื่อพบความอัศจรรย์ระดับอนุบาลก็ตาม ระดับประถมก็ตาม ระดับมัธยมก็ตาม ระดับปริญญาก็ตาม ระดับ post grad ก็ตาม ระดับโลกก็ตาม อย่าเพิ่งหยุดภาวนา เพราะยังมีความอัศจรรย์ระดับจักรวาล เช่นที่ท่านพระมหาโมคคัลลานะและท่านพระอนุรุทธพบ และความอัศจรรย์แห่งพระนิพพานนอกเหนือจักรวาลที่พระพุทธองค์ทรงพบอีก ความอัศจรรย์เหล่านี้จักปรากฏเมื่อนักปฏิบัติ ปฏิบัติตามพุทธวิธีอย่างถูกต้องและได้ผลโดยลำดับ
จะบอกความจริงที่ไม่ลับให้ ในบรรดากิจกรรมทั้งหมดในโลกและในจักรวาล ไม่มีอะไรที่สนุก เป็นสุข ให้ผลเลิศ ทำให้จิตบริสุทธิ์ และพาถึงที่สุดแห่งวิวัฒนาการได้เท่ากับ "ภาวนา" เลย
แม้สภาวะหมดจดแล้ว เช่นพระอรหันต์ท่านหลุดพ้นดีแล้ว ท่านก็ยังภาวนากันเป็นประจำ เพื่อบริสุทธิธาตุ เพื่อสงเคราะห์โลก และเพื่อวิหารธรรมที่อยู่สบาย เราผู้เดินตามท่าน ใยเล่าจะไม่ภาวนา เราจักภาวนาเป็นนิสัย แม้ไร้ความจำเป็นแล้วก็ตาม
ดังนั้น ท่องคาถาไว้ "ตราบที่ขันธ์ยังไม่สุด จักไม่หยุดภาวนา" นี่คือคาถาป้องกันนิกันติวิปัสสนูปกิเลส