เราจำเป็นต้องฝึกดูทุกขเวทนาเผื่อเมื่อเวลาเราจะตายแล้วมีทุกขเวทนามากไหม
Q
กราบเรียนถามท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมไปใส่บาตรที่วัด เพื่อไปกราบเพื่อนนักธุรกิจ ที่ปัจจุบันท่านบวชเป็นพระอยู่ (ท่านมีความตั้งใจดีมากในการมาบวช) ผมก็เลยสอบถามท่านถึงการภาวนาครับ ว่าท่านได้สภาวะอย่างไร ท่านตอบว่าที่วัดนี้ให้มีวิธีหนึ่งคือให้ดูทุกขเวทนา คือการนั่งสมาธิแบบขัดเพชร ท่านบอกว่านั่งไปสักพักจะรู้สึกเลยว่าเจ็บ ร้อน ปางจะตาย ท่านบอกเมื่อตอนเราจะตาย ถ้าไม่ฝึกแยกจิตไว้ อะไร ๆ ก็เอาไม่อยู่เพราะจะเจ็บมาก ซึ่งผมก็เข้าใจครับ
กราบเรียนถามท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมไปใส่บาตรที่วัด เพื่อไปกราบเพื่อนนักธุรกิจ ที่ปัจจุบันท่านบวชเป็นพระอยู่ (ท่านมีความตั้งใจดีมากในการมาบวช) ผมก็เลยสอบถามท่านถึงการภาวนาครับ ว่าท่านได้สภาวะอย่างไร ท่านตอบว่าที่วัดนี้ให้มีวิธีหนึ่งคือให้ดูทุกขเวทนา คือการนั่งสมาธิแบบขัดเพชร ท่านบอกว่านั่งไปสักพักจะรู้สึกเลยว่าเจ็บ ร้อน ปางจะตาย ท่านบอกเมื่อตอนเราจะตาย ถ้าไม่ฝึกแยกจิตไว้ อะไร ๆ ก็เอาไม่อยู่เพราะจะเจ็บมาก ซึ่งผมก็เข้าใจครับ
คราวนี้ผมมาพิจารณาตัวผมซึ่งชอบฝึกไปทางสุข ผมเลยเกิดคำถามครับว่า ผมควรต้องฝึกแบบนี้ด้วยไหมครับ เผื่อถ้าจุดสุดท้ายของผมมาจริงแล้วเกิดตอนนั้นผมอยู่กับสุขไม่ได้ครับ กราบขอบพระคุณครับท่านอาจารย์
A
พุทธวิธีปฏิบัติอริยสัจ
ทุกข์ มีธรรมชาติบีบคั้น ให้กำหนดรู้
สมุทัย มีธรรมชาติเร่าร้อน ให้กำหนดละ
นิโรธ มีธรรมชาติสุขอิสระ ให้รู้แจ้ง (เข้าถึง)
มรรค มีธรรมชาติสุขสงบ ให้รู้เจริญ
การปฏิบัติโดยเอา ทุกข์ เป็นตัวตั้ง เป็นวิธีปฏิบัติยาก สำเร็จยาก
การปฏิบัติโดยเอา สมุทัย เป็นตัวตั้ง เป็นวิธีปฏิบัติง่าย สำเร็จยาก
การปฏิบัติโดยเอา นิโรธ เป็นตัวตั้ง เป็นวิธีปฏิบัติง่าย สำเร็จง่าย
การปฏิบัติโดยเอา มรรค เป็นตัวตั้ง เป็นวิธีปฏิบัติยาก สำเร็จง่าย
ผู้ถาม
เข้าใจแล้วครับ
กราบขอบพระคุณครับท่านอาจารย์