วิธีแก้ไขโรคซึมเศร้า
อาจารย์ครับ น้องชายต่างมารดาเป็นโรคซึมเศร้า หาว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันทั้ง ๆ ที่คุณพ่อก็ให้ทุกอย่างเหมือน ๆ กัน เพียงแต่ผมดูแลธุรกิจเพราะเป็นลูกคนโต หาว่าพี่น้องไม่ยอมรับบ้าง พอดีพวกเราอยู่คนละบ้านกัน หาว่าลูกไม่รักบ้าง เลยประชดชีวิตบางครั้งมีพฤติกรรมแผลง ๆ ทุกคนเลยเป็นห่วง พาไปหาหมอ กินยามาสองปีก็ไม่ดีขึ้น ดูจะแย่ลงอีก พาไปหาพระก็ไม่สนใจ จะกลับอย่างเดียว อาจารย์พอมีอะไรแนะนำไหมครับ
โรคซึมเศร้ามีสามประเภท คือ ๑) ซึมเศร้าเทียม ๒) ซึมเศร้าแท้ ๓) ซึมเศร้าลึก
โรคซึมเศร้าเทียม
อาการ
1. โทษคนอื่นว่าทำให้ตนเป็นทุกข์
2. มานะกิเลสกำลังครอบงำ ต้องการให้ทุกคนสนใจตน ยอมรับตน
3. เรียกร้องความรักจากคนนั้นคนนี้ ยิ่งเรียกร้องยิ่งไม่ได้ เพราะความรักทั้งหลายไม่ได้เกิดจากการเรียกร้อง แต่เกิดจากการให้ ทั้งให้ความสุข ให้ความรัก ให้ความเคารพให้เกียรติ ให้คุณค่าที่หาได้ยาก เป็นต้น ผู้ให้ก่อนจึงจะเป็นที่รักได้
4. เมื่อไม่ได้ดังใจก็อาละวาด
5. หากเรียกร้องด้วยนานาเทคนิคแล้วไม่ได้ผล ก็จะประชดชีวิต ทำสิ่งที่เป็นภัยต่อคนอื่นได้
การแก้ไข
1. โรคกิเลส หากแก้ที่กิเลสตรง ๆ ได้ จะได้ผลที่สุด จับบวชเพื่อ reset ชีวิตจิตใจใหม่ได้ จะดีที่สุด
2. หากไม่ยอม ส่งไปอยู่ต่างประเทศคนเดียว ไปเรียนอะไรเล็กน้อยก็ได้ เมื่อต้องอยู่กับคนแปลกหน้า แปลกวัฒนธรรม จะพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ และปรับตัวให้อยู่รอดให้ได้โดยไม่เรียกร้องอะไร เพราะรู้ว่าไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง การอยู่รอดคนเดียวในต่างประเทศได้ อาการซึมเศร้าเพราะกิเลสจะไม่ activate จะยอมรับความจริงมากขึ้น
3. ในระดับบุคคล ไม่สนใจกิเลส ปฏิบัติต่อกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กิเลสประเภทนี้ ยิ่งสนใจยิ่งเรียกร้องด้วยอาการแดกดัน ประชดประชัน หรืออื่น ๆ
4. หากอยู่ในฐานะและรู้วิธีกระชากจิตสำนึกได้ ก็ควรทำ เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงช่วยองคุลีมาลและนางปฏาจารา เป็นต้น หากไม่รู้วิธี อย่าทำ
5. การกินยาคลายประสาท ช่วยได้บ้าง แต่ไม่หาย เพราะเป็นโรคกิเลสกำเริบจนควบคุมไม่ได้ ไม่ใช่โรค neurosis
6. หากไปหาจิตแพทย์อเมริกัน หมอก็จะป้อนคำถามแง่มุมต่าง ๆ แล้วนั่งฟัง จนวันหนึ่งคนไข้บอกว่า "OK all is my fault" หมอก็จะเลิกนัด เพราะคนไข้มีสติยอมรับผลการกระทำของตนเองแล้ว แต่คนเครียดต่อคือหมอ เพราะไปรับฟังกิเลสและความประสาทของคนไข้ไว้มาก จิตแพทย์อเมริกันจึงมีอัตราการฆ่าตัวตายสูง
โรคซึมเศร้าแท้
อาการ
1. โทษตนเองว่าทำให้ตนเป็นทุกข์ รู้สึกผิด ละอายในการใช้ชีวิต
2. ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากคุยกับใคร เก็บตัว นอนจมซมซานอยู่กับตัวเอง
3. กินไม่ค่อยได้ หลับไปเรื่อย ๆ ตื่นมาก็เซื่องซึม
4. คิดวนเวียนกับความผิดพลาดในอดีต
5. เห็นว่าตนไม่มีค่า ไม่อภัยให้ตนเอง
6. พยายามทำร้ายทำลายตัวเอง
การแก้ไข
1. โรคจิต หากแก้ที่จิตตรง ๆ ได้จะได้ผลที่สุด พาไปบวช อยู่ฟังธรรมปฏิบัติธรรม สักพักส่วนใหญ่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนหายในที่สุด
2. หากไม่ยอมไปวัด ก็เข้าสู่กระบวนการจิตเวช สาขา neuroscience เช็คสมองและต่อมไร้ท่อสำคัญ ๆ ว่ายังทำงานปกติดีหรือไม่ หากบางส่วนชำรุดไป ก็ boost ขึ้นมา อาการก็ดีขึ้นได้
3. พาเข้าคอร์สประเภทค้นพบพลังในตนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็พอช่วยได้
4. การแสดงความเข้าใจ ให้เกียรติเสมอ ก็ช่วยได้พอควร
5. การกินยากระตุ้นการทำงานของระบบประสาท หากแม่นก็ช่วยได้บ้าง แต่ไม่หาย เพราะเป็นโรค psychosis ไม่ใช่โรค neurosis
โรคซึมเศร้าลึก
อาการ
1. เก็บกดมาตั้งแต่เด็ก เพราะได้รับความไม่เป็นธรรมต่อชีวิตจิตใจต่อเนื่อง บ้างก็ถูกพ่อข่มขืนมาตั้งแต่เด็ก บ้างก็ทนอยู่กับพ่อแม่ที่ทะลาะกันทุกวัน จนจิต miserable จมทุกข์ตลอด
2. ขลาดกลัวสังคม ไม่อยากคบกับใคร
3. มีพฤติกรรมเหวี่ยง ๆ เวลา deal กับคน
4. บ้างก็มีสองบุคลิก เพราะจิตพยายามสร้างตัวตนใหม่ที่ตรงข้ามมาใช้ แต่ของเก่าก็ยังฝังอยู่ในใจ บุคลิกจึงแปรปรวนไปมา เหมือนสองคนอยู่ในร่างเดียวกัน
การแก้ไข
1. เข้าสู่กระบวนการจิตเวช สาขา neuroscience เช็คสมองและต่อมไร้ท่อสำคัญ ๆ ว่าชำรุดเสียหายหรือไม่ หากบางส่วนชำรุดไป ก็ซ่อมแซมแก้ไข
2. เข้าสู่กระบวนการ psychoanalysis ของ Sigmund Freud ล้วงรากเหง้าปัญหา แล้วยอมรับความจริง อภัย สละ สงสารผู้ที่ประทุษร้ายตน จนหลุดจากอิทธิพลของสิ่งนั้น
3. เข้าสู่กระบวนการ hypnosis เพื่อดึงพลังที่แท้จริงของตนออกมา พลังที่แท้จริงของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับ free will ไม่ขึ้นอยู่กับประสบการณ์เก่า ๆ นักสะกดจิตจะเหนี่ยวนำให้ละวางประสบการณ์เก่า แล้วสร้าง free will ในจิตใหม่ให้แข็งแรง จนหลุดออกมาได้
4. เข้าสู่กระบวนการปฏิบัติธรรมแบบตัดอดีต วางอนาคต อยู่กับปัจจุบันขณะเท่านั้น จนจิตเต็ม (mindful) แล้ววิจัยความจริงที่ปรากฏ ณ ปัจจุบัน จนเข้าใจชัดว่า ร่างกาย ความรู้สึก อารมณ์ สิ่งทั้งปวงไม่เป็นตน จึงไม่ถือมั่นอะไร ๆ ในกาย เวทนา จิต ธรรม และไม่ถือมั่นอะไร ๆ ในโลกทั้งปวง ทำได้อย่างนี้ สามารถบรรลุธรรมชั้นสูงได้เลย วิธีการนี้กำลังเป็นที่แพร่หลายในอเมริกา แคนาดา อังกฤษมาก บอร์ดการแพทย์แห่งชาติและรัฐบาลรับรองให้เป็น treatment มาตรฐานหนึ่งเลย และส่งเสริมให้ประชาชนปฏิบัติกันมาก กระบวนการนี้คือมหาสติของพระพุทธเจ้านั่นเอง ซึ่งชาวตะวันตกก็ยกย่อง ให้เกียรติ และอ้างอิงพระพุทธเจ้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายสากล treatment นี้จึงใช้ได้ผลดี และแพร่หลายอย่างมากในโลกตะวันตกปัจจุบัน
General Advise
คนไข้สามประเภทนี้ ไม่รู้สัจธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงสอนแล้วที่ว่า "ทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่ตนสร้างเอง ทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นสร้างให้ ทุกข์มีเพราะอวิชชามี ทุกข์ไม่มีเพราะอวิชชาไม่มี"
ดังนั้น เมื่อเป็นทุกข์ ให้รู้ทันทีว่า อวิชชากำลังทุกข์ ไม่ใช่ฉันทุกข์ เพ่งหรือวิปัสสนาไปที่อวิชชาตรง ๆ แล้วทะลุทะลวงหรือดับอวิชชาให้ได้ ก็หายทุกข์ถาวร โรคจิตทุกชนิดก็หายวับไปถาวร ไม่อาจเกิดขึ้นได้อีก
WHO รายงานว่าประชากรโลกทุกวันนี้เป็นโรค depressive (ซึมเศร้า) กันมาก จนกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขแห่งยุค การป้องกันและแก้ไขอย่างง่ายทำได้โดยช่วยกันประกาศสัจธรรมของพระผู้มีพระภาคที่ยกมานี้ ใครที่มีสติปัญญาหลงเหลืออยู่บ้าง ก็จะแก้ไขจิตตัวเองได้ทันที คนที่รู้สัจธรรมนี้ก็พอจะกู้วิกฤติจิตใจให้คนใกล้ชิดได้