Main navigation

เอรกปัตตนาคราช

เหตุการณ์
ในสมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ภิกษุรูปหนึ่งทำใบตะไคร้น้ำขาดแต่ไม่แสดงอาบัติเพราะคิดว่าเป็นโทษเล็กน้อย ภิกษุรูปนั้นอยู่ในสมณธรรม 20,000 ปี เมื่อใกล้จะมรณภาพ เกิดความทุกข์ใจว่าศีลของตนไม่บริสุทธิ์ เมื่อตายไป ไปเกิดเป็นพระยานาคชื่อ เอรกปัตตะ ต้องเลื้อยด้วยอก ไม่ได้ฟังธรรม ไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้าตลอดพุทธันดรหนึ่ง พระยานาคได้ออกอุบายให้ธิดาของตนร้องเพลงขับ หากใครแก้เพลงขับได้ ก็จะทราบว่าพระพุทธเจ้ามาอุบัติขึ้นแล้ว ครั้งนั้น อุตตรมาณพเข้าภายในข่ายพระญาณของพระพุทธเจ้าว่าเมื่ออุตตรมาณพเรียนเพลงขับแก้จากพระองค์จะบรรลุโสดาบัน พระยานาคจะรู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นแล้ว และเมื่อกล่าวคาถา สัตว์ ๘ หมื่น ๔ พัน จะบรรลุธรรม

เพลงขับของพระยานาคเอรกปัตตะ และเพลงขับแก้

ผู้เป็นใหญ่อย่างไรเล่า ชื่อว่าพระราชา
อย่างไรเล่า พระราชาชื่อว่ามีธุลีบนพระเศียร
อย่างไรเล่า ชื่อว่าปราศจากธุลี
อย่างไร ท่านจึงเรียกว่า คนพาล 

ผู้เป็นใหญ่ในทวาร ๖ ชื่อว่า เป็นพระราชา
พระราชาผู้กำหนัดอยู่ ชื่อว่า ธุลีบนพระเศียร
ผู้ไม่กำหนัดอยู่ ชื่อว่า ปราศจากธุลี
ผู้กำหนัดอยู่ ท่านเรียกว่า คนพาล

คนพาลอันอะไรเอ่ย ย่อมพัดไป
บัณฑิตย่อมบรรเทาอย่างไร
อย่างไรจึงเป็นผู้มีความเกษมจากโยคะ

คนพาลอันห้วงน้ำ คือกามโอฆะ เป็นต้น ย่อมพัดไป
บัณฑิตย่อมบรรเทาโอฆะนั้นเสียด้วยความเพียร
บัณฑิตผู้ไม่ประกอบด้วยโยคะทั้งปวงท่านเรียกว่า ผู้มีความเกษมจากโยคะ

คาถาที่พระพุทธองค์ตรัส

ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก
ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก
การได้ฟังพระสัทธรรม เป็นของยาก
การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก

เมื่อพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจบ สัตว์ ๘ หมื่น ๔ พัน บรรลุธรรม ฝ่ายพระยานาคเอรกปัตตะควรจะได้โสดาปัตติผลในวันนั้น แต่ก็ไม่ได้บรรลุธรรมเพราะเห็นที่เป็นสัตว์ดิรัจฉาน  ไม่อยู่ในอัตภาพที่จะบรรลุธรรมได้

นาคราชได้ถึงความไม่ลำบากในฐานะทั้ง ๕ คือ การปฏิสนธิ การลอกคราบ การวางใจแล้วนอนหลับ การเสพเมถุนกับนางนาคผู้มีชาติเสมอกัน และการจุติที่พวกนาคกระทำได้ลำบาก ได้เที่ยวไปด้วยรูปแห่งมานพ

 

อ่านอรรถกถา เรื่องนาคราชชื่อเอรกปัตตะ

อ้างอิง
พระไตรปิฎกฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ข้อที่ [๒๔] และอรรถกถา
ลำดับที่
7

สถานที่

นครพาราณสี

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ