ว่าด้วยวิญญาณ
วิญญาณที่รับรู้ตามอายตนะกับวิญญาณที่ไปเกิดเป็นอันเดียวกันไหมครับ
วิญญาณที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย จะสลายไปเมื่อตาย ปุถุชนยังมีอายตนะใจอยู่ วิญญาณธาตุก็ยังเกาะรู้อยู่ที่ใจ พาไปเกิด ท่านพระมหากัจจายนะได้แสดงไว้ใน เนตติปกรณ์ เมื่อไม่มีปฏิสนธิวิญญาณ นามรูปในภพอื่นย่อมเกิดไม่ได้ ดังนั้น ตัวที่เราจะต้องจัดการจริง ๆ ก็คือ ปฏิสนธิวิญญาณนั่นเอง
แล้วทำอย่างไรปฏิสนธิวิญญาณจึงจะดับ ท่านพระมหากัจจายนะก็ได้อธิบายขยายความไว้ ปฏิสนธิวิญญาณเสมือนเมล็ดพืช กรรมเสมือนนา ตัณหาเสมือนน้ำ ตอนนี้เรามี ๓ อย่าง มีเมล็ดพืช มีนา มีน้ำ เราจะบริหารตรงไหนดี บริหารตรงไหนง่าย
ปฏิสนธิวิญญาณดูมันจะง่าย แต่มันหาไม่ค่อยเจอ ถ้าไม่ได้สมาธิที่ดีจริง มองไม่เห็น ต้องสมาธิดีใสมาก ๆ จะเห็น คนส่วนใหญ่จะไม่เห็น กรรมก็นับไม่ถ้วนจัดการไม่รู้จบ ดังนั้น ท่านก็มาจัดการกันที่ตัณหา พอดับตัณหา ไม่มีน้ำแล้ว ปฏิสนธิวิญญาณก็ฝ่อหายไป นามันจะอยู่ก็ให้มันอยู่ต่อไป จัดการง่ายที่สุดคือจัดการกับตัณหา
เมื่อเรามีพุทธปริญญาพิจารณากันแล้วว่าการเกิดไม่คุ้ม พระพุทธเจ้าก็ทรงบอกว่า เมื่อดับความกำหนัดยินดีในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณแล้ว วิญญาณย่อมไม่มีที่ตั้ง ไม่งอกงาม ไม่แต่งปฏิสนธิ หลุดพ้นไป เพราะหลุดพ้นไป จึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่จึงยินดีพร้อม เพราะยินดีพร้อมจึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้งย่อมดับรอบเฉพาะตน
ดับความกำหนัดยินดีในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณให้ได้ ดับข้างในจนสะอาด สร้างมาตั้งนานหลายภพหลายชาติหลายกัปหลายกัลป์ ในที่สุดก็ต้องมาดับ ดับ ดับ เมื่อดับได้ปัญญาก็จะใหญ่ จิตใสบริสุทธิ์ เราศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าแล้ว มาปฏิบัติกันดูให้จริงจัง