ปล่อยวางทำอย่างไร
อาจารย์คะ เรื่องปล่อยวางพูดง่ายแต่ทำยาก มันมีวิธีการปล่อยวางอย่างไรคะ
วิธีคือทำจริง ๆ มันก็อยู่ตรงปล่อยจริง ๆ วางจริง ๆ จึงจะหลุดจริง ๆ
การจะปล่อยวางจริง ๆ ได้ ต้องมีเหตุผลในการปล่อยวาง จิตจึงจะยอมวาง เหตุผลอะไร
พระผู้มีพระภาคทรงให้เจริญยถาภูตญาณทัสสนะ คือเห็นสัจธรรมตามเป็นจริงว่า
“สัพเพ สังขารา อนิจจาติ
การประกอบกันทั้งปวงไม่เที่ยง
สัพเพ สังขารา ทุกขาติ
สิ่งปรุงประกอบกันทั้งปวงเป็นทุกข์
สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ
สิ่งทั้งปวงไม่เป็นตน”
เมื่อมีปัญญาเห็นสัจธรรมอย่างนี้แล้ว ก็จะประจักษ์ได้ว่า ความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรเป็นตนเลย ธรรมชาติบ้าง อวิชชาบ้าง ประกอบสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา สิ่งที่ประกอบนั้นก็ไม่เป็นตน แต่เป็นทุกข์ และไม่เที่ยง แล้วเราจะบ้าบอเหนื่อยยากไปกับสิ่งปรุงประกอบทั้งหลายทำไม
ความเบื่อหน่ายกับความโง่หลงไปกับสิ่งปรุงประกอบไม่ว่า กายสังขาร วจีสังขาร จิตตสังขาร ก็จะเกิดขึ้น การเบื่อด้วยปัญญานี้ พระองค์ทรงเรียกว่า นิพพิทาญาณ เป็นปัญญา นิพพิทาญาณความเบื่อหน่ายด้วยปัญญาหลังจากประเมินความเป็นจริงถ่องถ้วนระดับสัพเพคือทั้งปวงนี้แหละ จะทำให้จิตอยากวางอยากปล่อยสิ่งที่หลงยึดถืออยู่ เมื่อมีเหตุที่จะปล่อยเพียงพอ การปล่อยวางก็หลุดได้จริง เมื่อหลุดหมดก็พ้นจริง
ที่ยังวางไม่ได้ เพราะยังไม่เกิดนิพพิทาญาณ เป็นแค่อารมณ์เบื่อเฉย ๆ อารมณ์เบื่อส่วนใหญ่จะทำให้จิตจม ไม่ทำให้จิตหลุด เหตุที่ยังไม่ได้นิพพิทาญาณ เพราะยังวิปัสสนาสัพเพสังขารา และสัพเพธัมมาไม่แทงทะลุ ยังลูบ ๆ คลำเพราะฟังตาม ๆ กันมาเท่านั้น
แล้วจะรู้จริงได้อย่างไร
พระผู้มีพระภาคให้เจริญสมาธิจนได้ฌาน ตั้งแต่ฌาน ๑ ถึงฌาน ๗ สามารถวิปัสสนาเห็นสัจธรรมและหลุดพ้นได้ ถ้ายังอยู่นอกฌานไม่เห็นของจริง เป็นแค่ความคิด จินตนาการลอยไปลอยมาเฉย ๆ
ดังนั้น ปฏิบัติจิตให้ได้สมาธิจริง ก็จะได้ยถาภูตญาณทัสสนะจริง ก็จะเกิดนิพพิทาญาณจริง ก็จะปล่อยวางได้จริง ก็จะหลุดพ้นจริง อย่าทำแบบเล่น ๆ ลูบ ๆ คลำ ๆ ฉาบฉวย หรือเป็นแฟชั่นเอาโก้