เห็นดวงกลมคล้ายแก้วใสในสมาธิ ควรปฏิบัติต่ออย่างไร ๒
ช่วงประมาณสองเดือนที่ผ่านมา การปฏิบัติจะฟุ้ง ๆ น่าจะเป็นเพราะจิตปรุงแต่งมากในชีวิตประจำวันครับ แต่ถ้าปฏิบัติผ่านไปถึงจุดหนึ่ง จะเข้าความสงบได้บ้างครับ
ประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเหตุให้เห็นว่าขันธ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่น่ายินดีหรือไม่น่ายินดี ล้วนเป็นทุกข์ เพราะล้วนมีความบีบเค้นดิ้นรน จึงพยายามรู้เท่าทันทั้งสองส่วนนี้และปล่อยวาง มาอยู่กับความไม่ปรุงใด ๆ แทน
หลังจากเริ่มพิจารณาทั้งสองส่วนดังกล่าว ในการเจริญภาวนาครั้งหนึ่ง เข้าไปพบดวงกลมเหมือนเพชร คล้ายกับที่เคยรายงานท่านอาจารย์ไปครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนี้ประกายเพชรค่อนข้างเต็มทั้งดวง (ต่างจากครั้งที่แล้วซึ่งประกายเพชรจะประมาณขอบ ๆ ส่วนตรงกลางเป็นคล้าย ๆ แก้วใส ๆ) ครั้งนี้เห็นไม่ชัดเจนนัก คล้าย ๆ ขยับเข้าออก แล้วผ่านไป
ขอกราบเรียนถามท่านอาจารย์ว่าดวงกลมที่พบนี้คืออะไรครับ เป็นนิมิตที่จิตปรุงแต่งไปเองหรือเปล่าครับ และการปฏิบัติควรทำอย่างไรต่อไปครับ ควรภาวนาหรือปหานะอะไรเป็นพิเศษไหมครับ
1. กิเลสยิ่งลึกยิ่งขาว
2. ดวงกลมภายในคือดวงใจของเราเอง
3. ใสคือความบริสุทธิ์
4. ขาว คือปุญญาภิสังขาร และอาจผสมอปุญญาภิสังขารเล็กน้อย
ปฏิบัติการ
1. เอารู้เข้าไปอยู่ในใจ จะได้อานุภาพที่เป็นคุณวิเศษ
2. ปล่อยวางการปรุงทั้งหมดในใจ แม้ละเอียดที่สุด จนใสแจ่ม
3. เห็นชัดว่า แม้ใจนี้ก็ไม่เป็นตน ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
4. น้อมรู้บริสุทธิ์สู่อมตะธาตุ อันสงบเย็นนิรันดร
ถามต่อ
กราบเท้าท่านอาจารย์ที่เคารพค่ะ ขออนุญาตขอความกระจ่างเพิ่มเติมค่ะว่า
(1) กิเลสยิ่งลึกยิ่งขาว กับ (4) ขาวคือปุญญาภิสังขาร และอาจผสมอปุญญาภิสังขารเล็กน้อยนั้น คือขาวเดียวกัน สิ่งเดียวกัน หรือคนละขาว คนละสิ่งคะ ถ้าเป็นขาวเดียวกันแต่คนละสิ่ง เราจะแยกได้อย่างไรคะ กราบขอความเมตตาท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะด้วยค่ะ
อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ
ปุญญาภิสังขาร ก็เป็นกิเลสละเอียด ยึดในสังขารแห่งความดี ต้องดูดี ต้องทำดี ต้องได้ผลดี ทุกคนต้องรับว่าฉันดี แต่เนื่องจากมีดีเป็นแกนจึงขาว
ส่วนความบริสุทธิ์นั้น ใสผ่องแผ้ว ไร้สี