การบริหารจิตเพื่อการทำกิจ
กราบเรียนถามท่านอาจารย์ครับ ผมมีปัญหาว่าเมื่อจิตผม focus กับงานแล้วจิตของผมจะติดพันอยู่ทุกเวลา ไม่สามารถเปลี่ยนไปมาหลายเรื่องเหมือนคนอื่นครับ แต่ก่อนผมเลือก focus เลยไม่ค่อยมีปัญหา แต่ปัจจุบันเข้ามาหลายอย่างครับ
1) เรื่องงานที่บริษัท เมื่อผมมาเป็น CEO เลยต้องไปยุ่งกับเรื่องอื่น ๆ และต้องทำ model business ใหม่ด้วยครับ
2) เรื่องการลงทุน
3) เรื่องปฏิบัติธรรม
4) เรื่องครอบครัว
อย่างหนึ่งที่ผมพยายามนำมาปรับใช้ คือ การทำงานเป็น team เหมือนในหมู่บ้านสุคโตครับ ซึ่งใช้ได้อย่างดีทีเดียวครับ ลดงาน operation ส่วนตัวได้เยอะมากครับ และคาดว่าจะใช้วิธีนี้กับข้ออื่น ๆ เช่นกันครับ แต่ถ้าไปเรื่องอื่นสมองผมก็ติดปัญหา switch ไปมาไม่ค่อยได้อยู่ดีครับ
ในช่วงนี้ ผมตั้งเป้าหมายจะกลับมาทำงานให้ครอบครัวก่อน เพื่อเป็น foundation ให้พี่น้องต่อไป จากนั้นผมจะค่อย ๆ ปล่อย และหาคนมาช่วยครับ และช่วงท้ายของชีวิตสักก่อนอายุ 55-60 ผมไม่อยากทำงานแล้ว กะว่าจะเหลือแค่ลงทุนกับปฏิบัติธรรมครับ
จิตที่เปลี่ยนไปมาไม่ค่อยได้แบบนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นข้อดีหรือข้อเสียครับ ผมเกรงจะเอาดีไม่ได้สักเรื่อง และผมควรปรับปรุงรับมืออย่างไรครับ กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ครับ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "โลกมีจิตชักนำมา มีจิตชักนำไป โลกเป็นไปตามอำนาจจิต"
ดังนั้น ปรารถนาให้ชีวิตตน ครอบครัว และบริษัทเป็นเช่นไร ก็ทำจิตเช่นนั้นครับ
ผู้ถาม
ผมกราบขอให้ท่านอาจารย์อธิบายได้ไหมครับ ผมไม่เข้าใจครับ หมายถึงว่า ผมก็ยังปรับจิตผมให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่ทันงานอันหลากหลายครับ เพราะเวลาจิตอยู่กับอะไรมันจะหมกมุ่นอยู่ตรงนั้นครับ
อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ
การทำธุรกิจที่ดี ควรมีการบริหาร branding เพื่อประสิทธิผลสูง
Branding Management เป็นตัวกำหนดมาตรฐานสินค้า และ standard practice ในการสนองตอบต่อ demand และสถานการณ์ต่าง ๆ
การบริหารจิตที่ดี ควรมีวิหารธรรมที่อยู่สบายแห่งจิต ซึ่งจะเป็นวิโมกข์ หรือสมาบัติ หรืออัปปมัญญา หรืออิทธิบาท หรืออื่นใดที่จิตอยู่ในธรรมนั้นแล้วสุขสบายดี
วิหารธรรมเป็นธรรมกำหนดมาตรฐานสภาวะจิต และ standard practice ในการสนองตอบต่อบุคคล และสถานการณ์ต่าง ๆ
ธุรกิจที่ไม่มี Branding ก็ทำกิจอย่างเลอะเทะ
จิตที่ไม่มีวิหารธรรม ก็ทำกิจอย่างเละเทะ