ขั้นที่ 1 รู้จักตัวโง่

คนที่มีสิ่งเหล่านี้เป็นคนโง่ 

1. คนที่เห็นประโยชน์เป็นโทษ
1. คนที่เห็นโทษเป็นประโยชน์
1. คนที่หลงใหลใน ดิรัจฉานวิชา
1. คนที่เอาอวิชชา กิเลส ตัณหามาครอบงำตนและคนอื่น

1. คนที่เห็นทุกข์โดยความเป็นสุข
1. คนที่เห็นสุขโดยความเป็นทุกข์
1. คนปรารถนาความสุขจากตัวทุกข์
1. คนปรารถนาความสุขจากการฆ่า
1. คนปรารถนาความสุขจากการละโมบ ละเมิด
1. คนปรารถนาความสุขจากการก้าวล่วงสิทธิ์ผู้อื่น
1. คนปรารถนาความสุขจากการโกหก
1. คนปรารถนาความสุขจากการส่อเสียดนินทา
1. คนปรารถนาความสุขจากการพูดจาหยาบคาย
1. คนปรารถนาความสุขจากการพูดเพ้อเจ้อ
1. คนปรารถนาความสุขจากตัณหา
1. คนปรารถนาความสุขจากโทสะและพยาบาท
1. คนปรารถนาความสุขจากการบิดเบือนสัจธรรมเข้าข้างกิเลส
1. คนปรารถนาความสุขจากความอิจฉา
1. คนปรารถนาความสุขจากการแข่งดี
1. คนปรารถนาความสุขจากการโอ้อวด
1. คนปรารถนาความสุขจากการมารยา
1. คนปรารถนาความสุขจากการลบหลู่คุณ เนรคุณ
1. คนปรารถนาความสุขจากความประมาท
1. คนที่อยากเป็นสุข แต่ทำให้ตัวเองเป็นทุกข์
1. คนที่หวังดีต้องการให้ผู้อื่นเป็นสุข แต่ทำให้เขาเป็นทุกข์
1. คนที่ไม่อยากทุกข์ แต่คิดทุกข์ พูดทุกข์ ทำสิ่งที่เป็นทุกข์

1. คนที่ไร้วิจารณญาณ
1. คนที่ไว้ใจทุกคนในโลกนี้
1. คนที่ไม่ไว้ใจทุกคนในโลกนี้
1. คนที่คว้าทุกปรากฏการณ์มาเป็นโอกาสหมด
1. คนที่หยิบทุกปรากฏการณ์มาเป็นปัญหาหมด
1. คนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อใจตน say yes กับทุกคนทุกเรื่อง
1. คนที่จองจำใจตน say no กับทุกคนทุกเรื่อง
1. คนที่บ้าบิ่นเสี่ยงกับกิจที่ไม่คุ้มค่า
1. คนที่หวาดขลาด ไม่ยอมเสี่ยงกับกิจที่คุ้มค่า
1. คนที่มุทะลุทำกิจมั่วโดยไม่มีกลไกสำเร็จ ไม่ประเมินผลต่อเนื่อง

1. คนที่เห็นความเป็นไปไม่ได้ว่าเป็นไปได้
1. คนที่เห็นความเป็นไปได้ว่าเป็นไปไม่ได้
1. คนที่ปรุงความหวังมาหลอกตัวเองได้ในทุกเรื่อง
1. คนที่สร้างความหวาดกลัวมาปิดกั้นตัวเองในทุกสิ่ง
1. คนที่อยากดีกว่าเดิมแต่ขังตัวเองไว้ในความเคยชินเดิม
1. คนที่ปรารถนาการยอมรับจากคนที่อยู่ต่างเกณฑ์มาตรฐาน
1. คนที่ปรารถนาความสำเร็จ แต่เดินสู่ความล้มเหลว

1. คนที่ปรารถนาความเจริญในความเสื่อม
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการติดดื่มสุรา
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการคบมิตรที่ไม่จริงใจ
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการเชื่อถือลัทธิมิจฉาทิฏฐิ
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการมัวเมากามกับเพศตรงข้าม
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการหมกมุ่นในการพนัน
1. คนที่ปรารถนาความเจริญจากการเที่ยวเตร่แหล่งอบายมุขยามค่ำคืน 

เหล่านี้เป็นทางแห่งความเสื่อมและอันตรายนานา

1. คนที่เห็นความดีว่าเป็นความชั่ว
1. คนที่เห็นความชั่วว่าเป็นความดี
1. คนที่ใฝ่ดีแต่ทำชั่ว
1. คนที่ยอมทำบาปเพื่อเงิน
1. คนที่ยอมทำบาปเพื่ออำนาจ
1. คนที่ยอมทำบาปเพื่อชื่อเสียง
1. คนที่ยอมทำบาปเพื่อให้ได้รับการยอมรับ
1. คนที่ประกอบมิจฉาชีพ
1. คนที่ร่วมธุรกิจกับผู้บริหารที่เห็นแก่ได้
1. คนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้าผู้นำเงินมาให้
1. คนที่ทำสัญญากับคนที่ไม่รักษาสัจจะ

1. คนเห็นสิ่งสำคัญว่าไม่สำคัญ
1. คนเห็นสิ่งไม่สำคัญว่าสำคัญ
1. คนที่ดูหมิ่นตนเอง
1. คนที่ดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่น
1. คนที่ติเตียนผู้ที่ควรสรรเสริญ
1. คนที่สรรเสริญผู้ที่ควรติเตียน
1. คนที่หลงใหลในคนดัง
1. คนที่หลงเชื่อเพราะเสน่หา
1. คนที่ปั๊มลูกโดยไม่พร้อม ไม่มีเป้าหมาย ไม่เลือกวิญญาณมาเกิด
1. คนที่เพลิดเพลินกับการกินดีอยู่ดี จนสุขภาพเสียหาย

1. คนหลงปั้นอัตตาจากอนัตตา
1. คนหลงเอาความดูดีชั่วคราวนิดหน่อยมาปั้นอัตตาคนงามคนหล่อ
1. คนหลงเอาความรู้นิดหน่อยมาปั้นอัตตาปัญญาชน
1. คนหลงเอาความสามารถนิดหน่อยมาปั้นอัตตาผู้เชี่ยวชาญ
1. คนหลงเอาความรับผิดชอบนิดหน่อยมาปั้นอัตตาผู้มีอำนาจ
1. คนหลงเอาการสื่อสารนิดหน่อยมาปั้นอัตตาคนดัง
1. คนหลงเอาฐานะนิดหน่อยมาปั้นอัตตาไฮโซ
1. คนหลงเอาความสมถะนิดหน่อยมาปั้นอัตตาโลโซ
1. คนหลงเอาตำแหน่งสมมติมาปั้นอัตตาผู้ยิ่งใหญ่
1. คนหลงเอาการไม่สวมตำแหน่งสมมติมาปั้นอัตตาผู้ต่ำต้อย
1. คนหลงใหลในอัตตาที่ปั้นขึ้นมาแล้วในตน และในคนอื่น

1. คนหลงอธรรมว่าเป็นธรรม
1. คนหลงทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อตนเอง
1. คนหลงทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้อื่น
1. คนหลงทำสิ่งที่ไม่เป็นธรรมต่อตนเอง ผู้อื่น และส่วนรวม
1. คนที่ตั้งเกณฑ์ความดีโดยไม่สอดคล้องกับกฎแห่งกรรมมายึดถือ

1. คนเห็นสิ่งที่เป็นสรณะได้จริงว่าไม่ใช่สรณะ
1. คนเห็นสิ่งที่ไม่เป็นสรณะได้จริงว่าเป็นสรณะ
1. คนที่ทอดทิ้งปรมัตถ์ ไปยึดถือสมมติเป็นสรณะ
1. คนที่ทอดทิ้งจิตใจ ไปยึดถือกายเป็นสรณะ
1. คนที่ทอดทิ้งอภิญญา ไปยึดถือ AI เป็นสรณะ (พัฒนาคู่กันไปจึงปลอดภัยที่สุด)
1. คนที่ทอดทิ้งการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ไปยึดถือ Alien เป็นสรณะ (พัฒนาคู่กันไปจึงดีที่สุด)
1. คนที่ทอดทิ้งความบริสุทธิ์ ไปยึดถือกระแสนิยมเป็นสรณะ
1. คนที่ทอดทิ้งพระรัตนตรัย ไปยึดถือภูติผีวิญญาณเป็นสรณะ

1. คนที่เห็นความจริงเป็นเท็จ
1. คนที่เห็นความเท็จเป็นจริง
1. คนที่เห็นขันธ์ห้าว่าเป็นตน
1. คนที่เห็นว่าตนมีอยู่ในขันธ์ห้า

1. คนที่เห็นแก่นสารว่าไร้แก่นสาร
1. คนที่เห็นสิ่งไร้แก่นสารว่าเป็นแก่นสาร
1. คนที่ทุ่มเททำสังขารทั้งหลายให้อมตะ
1. คนที่ดูดายปัญญาญาณอันแจ่มแจ้ง แต่ไปวิ่งตามความคิดปรุงแต่ง
1. คนที่ดูแคลนศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ  

ขั้นที่ 2 ลองประเมินดูว่า มีตัวโง่ตัวใดแอบอิงอาศัยอยู่ในจิตใจบ้างหรือไม่

ขั้นที่ 3 ชำระล้างความโง่ออกจากจิต

ภาวนาสติ สมาธิ วิปัสสนา วิราคะ ในจิตใจให้ทะลุโปร่งปรุ จนปรากฏแสงปัญญาญาณอยู่ตลอดเวลา แสงญาณมีอานุภาพทำลายตัวโง่ให้ดับสูญได้

ขั้นที่ 4 ประเมินผล

1. ทุกขณะที่เห็นว่าตัวโง่เป็นตัวโง่ได้จริง จิตไม่ได้โง่ตามตัวโง่ หรือจะไม่สนองตัวโง่อีกเด็ดขาด จะเกิดปัญญาร่าเริงขึ้น เหมือนจิตหัวเราะใน "ชิตังเม" (ชนะแล้ว)

2. ทุกครั้งที่ตัวโง่หลุดไป แสงปัญญาญาณจะผ่องใส กว้างใหญ่ สงบสุข

3. เมื่อแสงปัญญาญาณสลายตัวโง่ได้หมดสิ้น จะบริสุทธิ์ หลุดพ้นถาวรจากวัฏฏทุกข์อันน่าสงสาร