04 อาจารย์ไชย ณ พล วิสัชนาธรรมในกรรมฐานยาม
อะไรคือกรงขังประจำจักรวาล
ตอบ: ระบบกรรม
อะไรคือกรงขังประจำโลกทั้งหลาย
ตอบ: กรงขังประจำโลกทั้งหลายคือระบบที่ชาวโลกนั้น ๆ สมมติขึ้นมาเอง
เพราะอะไรจึงเป็นเช่นนั้น
ตอบ: เพราะสมมติไม่ได้มีอยู่ในธรรมชาติแต่แรก แต่ชาวโลกช่วยกันบัญญัติมาครอบงำกันเอง
ทำไมมนุษย์จึงสมมติกรงขังมาครอบงำกันเอง
ตอบ: ๑) เพราะมนุษย์ไม่พอใจพฤติกรรมของกันและกัน จึงสมมติระบบกฎหมายขึ้น
๒) เพราะมนุษย์ไม่พอใจการละเมิดกฎหมาย จึงสมมติระบบผู้ปกครองขึ้น
๓) เพราะมนุษย์ไม่พอใจการละเมิดสิทธิ์ในสิ่งที่หวงแหน จึงสมมติระบบเศรษฐกิจขึ้น
๔) เพราะมนุษย์ไม่พอใจในการไม่รู้กติกามารยาทของอนุชน จึงสมมติระบบการศึกษาขึ้น
๕) เพราะมนุษย์ไม่พอใจสมมติเดิมเป็นหมู่ใหญ่ จึงสมมติระบบประเทศขึ้น เพื่อบัญญัติระบบสมมติของพวกตนเอง
๖) เพราะมนุษย์ไม่พอใจการเป็นร่วมกับผู้ที่ตนรังเกียจ จึงสมมติระบบวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติขึ้นให้แตกต่างจากชนชาติอื่น
๗) เมื่อมีการแบ่งประเทศ การแข่งขันทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม การค้า การศึกษา การขายวัฒนธรรม การเทคโนโลยีจึงเกิดขึ้น
๘) ประเทศใดได้เปรียบก็พยายามจะครอบงำประเทศอื่น ๆ จึงเกิดการแบ่งพวกเป็นกลุ่มประเทศเพื่อความร่วมมือด้านต่าง ๆ ยั้วเยี้ยะไปหมด
เป็นต้น และ ฯลฯ
เมื่อมีระบบสมมติแล้ว โลกดีขึ้นหรือแย่ลง
ตอบ: โลกดูเหมือนมีระบบดี แต่ทุกข์ของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น จากเดิมมีแต่ทุกข์ธรรมชาติ คือ เกิดแก่เจ็บตาย ต่อมาต้องทุกข์เพราะถูกจองจำอยู่ในกรงสมมติ จิตใจขาดอิสรภาพแท้จริง ต้องถูกบีบบังคับให้คับแคบเล็กลงเพื่ออยู่ในกรงให้ได้ เมื่อต้องปฏิสัมพันธ์กับระบบสมมติชนชาติต่าง ๆ ที่แบ่งโลกกันอยู่ ก็ต้องวิ่งไปในวงกตของสมมติแต่ละวงที่ทับซ้อนกันอย่างยุ่งเหยิง ความไม่ลงตัวของระบบสมมติทำให้เกิดสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า มนุษย์ผู้อาศัยอยู่ในโลกเดียวกัน จึงทำร้ายทำลายล้างกันเองครั้งแล้วครั้งเล่า
โลกจึงเต็มไปด้วยวิกฤติแห่งสมมติ เช่น วิกฤติสงคราม วิกฤติเศรษฐกิจ วิกฤติการเมือง วิกฤติความเป็นธรรม วิกฤติข้อมูลข่าวสาร วิกฤติสิ่งแวดล้อม วิกฤติการเงิน วิกฤติโรคระบาด และ ฯลฯ
จากความไม่พอใจเล็กน้อย มนุษย์สมมติระบบซ้อนระบบขึ้นมาหลายชั้น ยิ่งระบบซับซ้อนมาก ความไม่พอใจกันก็บานปลายมาก สร้างหายนะมาก มนุษย์ในยุคสมมติซับซ้อนจึงทุกข์เพราะสมมติมากกว่าทุกข์ธรรมชาติดั้งเดิม
ใยมนุษย์ช่างทำตัวน่าสงสารกันอย่างนี้
ตอบ: ท่านควรไปถามมนุษย์เหล่านั้นเอง
มนุษย์แต่ละโลกสามารถออกจากกรงขังแห่งสมมติเหล่านั้นได้ไหม
ตอบ: ได้
มนุษย์เหล่านั้นจะพ้นโทษออกจากกรงขังได้ด้วยอะไร
ตอบ: ด้วยวิมุตติ คือ ออกจากสมมติทั้งปวง
จิตในจักรวาลทั้งหลายจะออกจากกรงขังแห่งกรรมได้ไหม
ตอบ: ได้
จิตในจักรวาลทั้งหลายจะออกจากกรงขังแห่งกรรมได้ด้วยอะไร
ตอบ: ด้วยวิสังขาร คือ สละ สลัดคืนสิ้นเชิงซึ่งสังขาร ตัวสร้างกรรม ตัวแบกกรรม ตัวรับกรรมทั้งปวง
ดับสังขารแล้วจะสูญหายเลย หรือปรากฏสิ่งใหม่
ตอบ: สังขารและขันธ์ที่เหลือจะสูญหายไป เหมือนไฟที่ถูกดับไป สิ่งที่เหลือ คือ อมตธาตุ ณ พระนิพพาน บริสุทธิ์จากกรรมทั้งปวง