สัจจะหลักของพระพุทธศาสนา
อาจารย์ครับ ศาสนาพุทธสอนแต่เรื่องทุกข์และการดับทุกข์เท่านั้น แต่บาง school ทางวิชาการสอนเรื่องสุข การสร้างสุขด้วย รัฐก็ตั้ง สสส. ขึ้นมาด้วย อันนี้เราจะวินิจฉัยว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิได้ไหมครับ
โอ... ไม่ได้
ประการที่หนึ่ง โลกนี้เป็นโลกพหุอารยธรรม เราจะเอาเกณฑ์อารยธรรมหนึ่ง ไปตัดสินอีกอารยธรรมหนึ่งไม่ได้ จะสร้างความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น
ประการที่สอง ประชาคมโลกอยู่ร่วมกันภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติ ซึ่งเคารพสิทธิเสรีภาพทางความเชื่อและวิถีชีวิตของพลเมืองโลกทุกคน ตราบที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แม้รัฐก็บังคับไม่ได้
ประการที่สาม ควรเข้าใจพระพุทธธรรมให้ถ่องถ้วน พระพุทธเจ้าทรงสอนอริยสัจเป็นหลัก คือ
ทุกขสัจ ภาวะบีบเค้น ต้องกำหนดรู้
สมุทัยสัจ เหตุแห่งทุกข์ ต้องดับ ต้องสลัดคืน
นิโรธสัจ บรมสุข ต้องทำให้แจ้ง
มรรคสัจ วิถีสายกลางสู่บรมสุข ต้องเจริญให้มาก
ดังนั้น ถ้าจะพูดให้ถูก ไม่เป็นการกล่าวตู่พระพุทธองค์ ต้องบอกว่า "พระพุทธเจ้าทรงสอน ทุกข์และการดับทุกข์ กับ บรมสุขและวิถีสู่บรมสุข" อันนี้ถูกต้องแน่นอน เป็นสัจจะหลักของพระพุทธศาสนา
ประการที่สี่ สสส.นั้น เป็นการแก้เกี้ยวของรัฐบาล รัฐเป็นเจ้าของโรงงานผลิตบุหรี่ซึ่งเป็นโทษต่อประชาชน รัฐอนุญาตให้เอกชนผลิตสุราซึ่งเป็นโทษต่อประชาชน พอเป็นโทษ ประชาชนป่วยกันมาก รัฐต้องเสียเงินในการรักษาพยาบาลมาก เลยเอาภาษีส่วนหนึ่งจากธุรกิจบาป หรือ sin tax มาตั้งกองทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ สสส. ก็พยายามรณรงค์ให้ประชาชนห่วงใยดูแลสุขภาพ ซึ่งไม่ได้ผลอะไร สถิติผู้ป่วยก็ยังสูงขึ้นทุกปี เพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด
หากรัฐจริงใจที่จะแก้ปัญหาประเทศชาติ แค่ยกเลิกโรงผลิตบุหรี่ ผลิตเหล้า และห้ามนำเข้า ก็จบ แล้วให้ สสส. ดูแลผู้เลิกบุหรี่เลิกเหล้าใหม่ ๆ อย่างนี้จึงเป็นการแก้ปัญหาด้วยการดับสมุทัย ได้ผลจริง และเป็นประโยชน์สุขทุกฝ่าย โดยไม่มีใครเสียหายเลย เพราะธุรกิจเหล่านั้นเมื่อเลิก sin business ก็ไปทำธุกิจ clean business ได้ ซึ่งก็ทำกันอยู่มากมายแล้ว ดีเสียอีก จะได้ตายอย่างงามสง่า มีข้อแก้ต่างกับท่านพญายมได้ว่า เลิกธุรกิจบาปแล้ว หันมาทำแต่ธุรกิจสะอาด ยังพอมีสิทธิ์ขึ้นสวรรค์ได้
ประการที่ห้า การสานสัมพันธ์ระหว่างอารยธรรมนั้น แทนที่จะไป judge ถูกผิด ซึ่งจะผิดใจกันแน่ ๆ ที่ตีกันอยู่ทั่วโลกนั้นเพราะต่างยึดเกณฑ์ถูกผิดต่างกัน แล้วต่างก็พยายามพิสูจน์ให้ได้ว่าฉันถูก แกผิด จึงตีกัน ผลพินาศทั้งคู่
ดังนั้น ให้ใช้การพากันประเมินผลตามจริง แล้วพากันหา betterment อย่างนี้จะประเทืองปัญญาและพาเจริญไปด้วยกัน อย่างสมานสามัคคี