Main navigation

เหตุปัจจัยให้คนเป็นที่ยอมรับและไม่เป็นที่ยอมรับ

Q ถาม :

กราบเรียนท่านอาจารย์ค่ะ อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บุคคลเป็นที่ยอมรับแม้ไม่ค่อยได้ทำอะไรคะ และอะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บุคคลไม่เป็นที่ยอมรับแม้จะขยันทำอะไรมากคะ ขอความเมตตาท่านอาจารย์ด้วยค่ะ เพื่อจะได้พัฒนาตนและคนรอบข้างค่ะ

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

ปัญหาเรื่องการยอมรับและการไม่ยอมรับ ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของโลกยุคนี้ ที่นำมาซึ่งปัญหาโรคจิต ปัญหาความสัมพันธ์ ปัญหาสังคม ปัญหาการงาน ปัญหาการเมือง ปัญหาอารยธรรม กระทั่งก่อเกิดสงครามโลกมากเหลือเกิน ถ้าเวลาพอ เรามาทำความเข้าใจกันอย่างเป็นระบบดีกว่า จะได้แก้ปัญหากันได้

เพื่อจะเข้าใจเรื่องนี้โดยรวม ควรเข้าใจ 5 sets of combination นะ

Combination 1 : เข้าใจโลกแห่งสมมติ และจักรวาลแห่งปรมัตถ์

ปรมัตถ์ คือ คือสิ่งที่ปรากฏอยู่จริงในธรรมชาติ ได้แก่ รูป (รวมกาย) จิต เจตสิก (อารมณ์ในใจ) นิพพาน 

สมมติ คือ สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงในธรรมชาติ แต่ปรากฏขึ้นเพราะมนุษย์อุปโลกน์ขึ้นมานอกเหนือจากปรมัตถ์ สมมติทั้งหมดเกิดจากการที่มนุษย์โมเมขึ้นมา ตั้งอยู่ตราบที่ความโมเมยังคงอยู่ และดับไปเมื่อมนุษย์เลิกโมเม ไม่ว่าเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม หรือมนุษย์ทั้งมวล สมมติ เช่น ทรัพย์ ตำแหน่ง ระบบ ระบอบ

ในชั้นนี้จำแนกให้กระจ่างระหว่าง การยอมรับในสมมติกับการยอมรับในปรมัตถ์ เช่น

หากคนต้องการทรัพย์ ยอมรับเราเพราะทรัพย์สมมติของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณีมรดกเลือดเป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการอำนาจ ยอมรับเราเพราะตำแหน่งสมมติของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณี The Godfather เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการระบบ ยอมรับเราเพราะระบบสมมติของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณี Economic Crisis เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการระบอบ ยอมรับเราเพราะระบอบสมมติของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณี การล่มสลายของอาณาจักรอียิปต์ อาณาจักรกรีก อาณาจักรโรมัน อาณาจักรมองโกล อาณาจักรออตโตมัน อาณาจักรไรซ์ และอีกหลายอาณาจักร ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการกาย ยอมรับเราเพราะกายปรมัตถ์ของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณีหลงใหลได้ปลื้ม และข่มขืนแล้วฆ่า เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการจิต ยอมรับเราเพราะจิตปรมัตถ์ของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณีศรัทธาฉ่ำ และกรรมฐานการฝึกพัฒนาจิตนานา เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการเจตสิก ยอมรับเราเพราะเจตสิกปรมัตถ์ของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณี สังคมกุศลเจตสิก สังคมอกุศลเจตสิก สังคมสัพพสาธารณะเจตสิก เป็น case study ก็ได้

หากคนต้องการนิพพาน ยอมรับเราเพราะวิมุตติปรมัตถ์ของเรา คนเช่นนั้นเป็นคนที่ไว้วางใจได้หรือไม่ เราจะยอมมีความสัมพันธ์กับคนเช่นนั้นในระดับใด ผลของความสัมพันธ์จะให้ผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ลองดูกรณีพระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็น case study ก็ได้

เมื่อประเมินผลจากการยอมรับสมมติและยอมรับปรมัตถ์แล้ว ต่อไปก็บริหารเพื่อผลสูงสุดที่สามารถ

Combination 2 : การมอบ Supply ตรง Real Demand

เพื่อความเข้าใจแจ้งด้วยธรรมปัญญา ลองพิจารณาสัจจะนี้

ทุกขสัจ คือ ภาวะบีบเค้นอันเป็นปรากฏการณ์ปกติของสังขารทั้งปวง เช่น เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของร่างกาย ของโลก ของกาแลกซี่ ของจักรวาล เป็นต้น

สมุทัยสัจ คือ การปรุงแต่งสร้างทุกขเวทนาอันไม่มีอยู่แต่เดิม ได้แก่ อวิชชา ตัณหา กิเลส แท้จริงแล้ว ความต้องการการยอมรับก็คือภวตัณหา ความทนไม่ได้ที่ไม่เป็นที่ยอมรับจนประสาท ทำลายล้างกันก็คือวิภวตัณหานั่นเอง

นิโรธสัจ คือ พระนิพพาน บรมสุข บรมว่าง เหนือธรรมชาติ (สิ่งที่เกิด-ดับทั้งปวง)

มรรคสัจ คือ กระบวนการสู่บรมสุข บรมว่าง อย่างปลอดภัย คือ

1. เข้าใจให้ถูกความจริง (Right Vision)

2. ตั้งใจให้ถูกผลดีจริง (Right Mission)

3. สื่อสารให้ถูกสัจจะ (Right Truth Communication)

4. กระทำให้ถูกคุณธรรม (Right Strategic Morality)

5. เลี้ยงชีพให้ถูกจริยธรรม (Right Professional Ethics)

6. พากเพียรให้ถูกความสำเร็จ (Right Success Performance)

7. ตั้งสติรู้ให้ถูกฐาน (Right Free Knowingness)

8. มีใจตั้งมั่นให้ถูกสภาวะ (Right Pure Mind)

เราต้องการอะไร  ชาวโลกต้องการอะไร

แน่นอน ความต้องการที่แท้จริงของทุกจิตใจ ทุกชีวิต ทุกสังคม ทุกประเทศ ทุกโลก ทุกจักรวาล คือ นิโรธ กับ มรรค

แต่ชนจำนวนมากที่ไม่รู้ความจริงนี้ ปรุงแต่งสมุทัย ล่าการยอมรับ แล้วเป็นทุกข์ร้อนกับสมุทัย ทั้งเหนื่อยยากกับการล่าการยอมรับ ทั้งไม่พอใจที่ไม่ได้รับการยอมรับ แล้วมายาประสาทกันไปโดยไม่จำเป็นเลย

ดังนั้น จง supply นิโรธ ให้ ทั้งตนและชาวโลกก็ยอมรับ ทั้งศรัทธาบูชาด้วย เช่นที่ชาวโลกชาวสวรรค์ยอมรับศรัทธาบูชาพระพุทธเจ้า แม้พระองค์ไม่ต้องการการยอมรับก็ตาม 

จง supply มรรค ให้ ทั้งตนและชาวโลกก็ยอมรับทั้งเคารพเชื่อถือปฏิบัติตาม เช่นที่ชาวโลกชาวสวรรค์ยอมรับเคารพเชื่อถือปฏิบัติตามพระอรหันต์ พระนิยตโพธิสัตว์ เป็นต้น แม้ท่านเหล่านั้นไม่ต้องการการยอมรับก็ตาม 

จงอย่า supply ทุกข์ ให้ ทั้งตนและชาวโลกก็จะเบื่อ รำคาญ พยายามหลีกหนี แม้บุคคลเหล่านั้นต้องการการยอมรับก็ตาม

จงอย่า supply สมุทัย ให้ใครเด็ดขาด เพราะทั้งตนและชาวโลกจะรังเกียจ สิ่งที่ชาวโลกรังเกียจจริง ๆ ก็คืออวิชชา ตัณหา กิเลสนี่แหละ แม้คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ล่าการยอมรับอย่างเป็นล่ำเป็นสันก็ตาม ที่พยายามทำลายกันจนเกิดสงครามก็เพราะยอมรับกิเลสไม่ได้นั่นแหละ เพราะนอกจากไม่ตรง demand ของใครแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ทำลายความสงบสุขเดิมที่มีอยู่ให้พินาศด้วย 

Combination 3 : การขยันทำกิจด้วยสัจจะต่างฐาน

บุคคลบางจำพวกขยันมากด้วยทุกข์

บุคคลบางจำพวกขยันมากด้วยสมุทัย

บุคคลบางจำพวกขยันมากด้วยนิโรธ

บุคคลบางจำพวกขยันมากด้วยมรรค

บุคคลบางจำพวกขยันมากด้วยมิจฉา

บุคคลบางจำพวกขยันมากในการทำบาปเป็นอาจิณ

พวกขยันมากด้วยทุกข์ขับดัน ก็จะได้รับความเห็นใจ สงสาร และผู้คนยินดีช่วย หากพยายามทำตนให้ดีขึ้นได้ และไม่เสพติดทุกข์ ไม่ทุกข์ซ้ำซาก พวกนี้ขยันมาก ก็ได้รับการยอมรับบ้างอย่างมีเงื่อนไข

พวกขยันมากด้วยสมุทัยขับดัน ทำกิจด้วยกิเลส วิ่งตามกิเลสมายา หรือเอากิเลสของตนไปยัดเยียดให้คนอื่นรับผิดชอบ พวกนี้จะสร้างทุกข์อันไม่จำเป็นให้ตนและคนอื่นเนือง ๆ ผู้คนจะรังเกียจ ถอยหนี หากยังตามรุกรานก็อาจจะต่อสู้ ทำลายล้างกัน พวกนี้ยิ่งขยันยิ่งเป็นที่รังเกียจ ทำให้ตนเดือดร้อน ทำให้โลกเดือดร้อน

พวกขยันมากด้วยนิโรธแล้ว พวกนี้จะกรุณาล้วน ๆ อนุเคราะห์ให้ผู้อื่นได้ลิ้มรสความสุขแท้บ้าง ผู้คนจะต้อนรับ ยกย่อง บูชา พวกนี้ยิ่งขยันยิ่งได้รับการยกย่องเทิดทูน แม้ท่านไม่ต้องการก็ตาม

พวกขยันมากด้วยสัมมามรรคสู่ความสำเร็จ ผู้คนจะชื่นชมส่งเสริม ให้ scholarship นานา เช่นการบำรุงเลี้ยงพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบทั้งหลาย พวกนี้ยิ่งขยันยิ่งเจริญ

พวกขยันทำบาปเป็นอาจิณ ไม่คิดแก้ไขเปลี่ยนแปลง เช่น เอารัดเอาเปรียบผู้คนเพื่อความร่ำรวยของตน และผิดศีลนานาเป็นอาจิณ พวกนี้ยิ่งขยันยิ่งสร้างปัญหามากทั้งแก่ตนและคนอื่น จะไม่เป็นที่ยอมรับ และเป็นที่รังเกียจ แม้จะปรารถนาการยอมรับก็ตาม

พวกขยันมากด้วยมิจฉา พวกนี้ตั้งใจออกจากทุกข์แล้ว พยายามละสมุทัยแล้ว พยายามละกิเลสแล้ว แต่เข้าใจนิโรธผิด จึงตั้งเป้าผิด เมื่อตั้งเป้าผิด จึงกำหนดเกณฑ์ความดีผิด เมื่อกำหนดเกณฑ์ความดีผิด จึงปฏิบัติผิด เมื่อปฏิบัติผิด จึงได้ผลผิด เช่น เจ้าลัทธิทั้งหกสมัยพุทธกาล พวกนี้แม้จะได้รับการยอมรับจากมนุษย์ที่ไม่เดียงสาบ้าง แต่ระบบกรรมไม่ยอมรับ สวรรค์ไม่ยอมรับ เมื่อตายไปก็ลงนรกลึกกันทุกคน พวกนี้ยิ่งขยันยิ่งเป็นภัยต่อตนเองและต่อโลก 

ซึ่งยุคปัจจุบันก็มีไม่น้อยและคงมีอีกหลายยุค จนกว่าจะถึงอารยธรรมที่มนุษย์มีอายุขัย 80,000 ปีถึงหนึ่งกัป จึงจะมีแต่สัมมาธรรมล้วน ๆ

ดังนั้น 

ผู้เคารพระบบกรรม ประพฤติศีลเป็นปกติ ย่อมได้รับการยอมรับ

ผู้สร้าง "ระบบกู" มาใช้ ย่อมเป็นที่รังเกียจ   

ผู้ปฏิบัติตามสัมมาปฏิปทาแห่งอริยสัจจะ ย่อมได้รับการยอมรับ

ผู้ปฏิบัติมิจฉาปฏิปทาที่โมเมกันเอาเอง ย่อมเป็นที่รังเกียจ  

ผู้ขยันด้วยความบริสุทธิ์ ย่อมได้รับการยอมรับ

ผู้ขยันด้วยธรรมโดยธรรม ย่อมได้รับการยอมรับ

ผู้ขยันด้วยกิเลส ยอมเป็นทาสกิเลส ย่อมเป็นที่รังเกียจ เพราะกิเลสเป็นสิ่งที่จักรวาลรังเกียจ ยอมรับไม่ได้

Combination 4 : วิถีวิวัฒนาการกับการยอมรับ

ผู้เริ่มไต่ระดับวิวัฒนาการจริงจัง ย่อมตั้งใจทำจริงในการละบาป และเริ่มเป็นที่ยอมรับบ้าง เพราะบาปทั้งหมดเป็นสิ่งที่ชาวโลกและชาวสวรรค์รังเกียจ

ผู้เริ่มไต่ระดับวิวัฒนาการจริงจัง ย่อมตั้งใจทำจริงในการประพฤติบุญด้วยบุญกิริยา 10 จึงได้รับการยอมรับ เพราะบุญทั้งหมดเป็นสิ่งที่ชาวโลกและชาวสวรรค์ยอมรับ

ผู้เริ่มไต่ระดับวิวัฒนาการจริงจัง ย่อมตั้งใจทำจริงในการเจริญมงคล 38 จึงได้รับการยอมรับ เพราะมงคลทั้งหมดเป็นสิ่งที่ชาวโลกและชาวสวรรค์แสวงหา

ผู้เริ่มไต่ระดับวิวัฒนาการจริงจัง ย่อมตั้งใจทำจริงในการชำระจิตให้ใสรอบด้วยโพธิปักขิยธรรม 37 จึงได้รับการยอมรับ เพราะจิตบริสุทธิ์เป็นสุดยอดปรารถนาของสรรพจิตทั่วจักรวาล ทุกจักรวาลจะเคารพกันตามระดับความบริสุทธิ์เป็นสำคัญ ผู้ที่มีสิ่งเหล่านี้บริบูรณ์ แม้จะทำน้อยหรือทำมากก็เป็นที่ยอมรับเสมอ เช่นพระอรหันต์ แม้ท่านจะอยู่เฉย ๆ ไม่ทำอะไรเลย ผู้คนก็กราบไหว้บูชา

Combination 5 : การบริหารชีวิตจริง

ในชีวิตจริง 

ท่านที่บริสุทธิ์แล้ว ก็หมดปัญหาโดยสิ้นเชิง อยู่เหนือการยอมรับและการไม่ยอมรับใด ๆ ผู้คนที่เข้าใจความบริสุทธิ์ก็ยอมรับท่านโดยดุษณี ใครยอมรับท่าน ท่านก็กรุณาสงเคราะห์โดยธรรมล้วน ๆ ผู้คนที่ไม่เข้าใจความบริสุทธิ์ก็อาจเฉย ๆ หรือไม่ยอมรับท่าน ซึ่งท่านก็ไม่ได้ใส่ใจ ปล่อยให้เขาไปสู่ที่ชอบที่ชอบที่เหมาะกับตน

ผู้ที่ไม่มีอะไรบริสุทธิ์เลย ก็ไหลลงต่ำ ไม่เป็นที่ยอมรับทั้งในโลกนี้และโลกอื่น หากไม่อยากไหลลงต่ำและเป็นที่รังเกียจ ก็ต้องรีบหากัลยาณมิตรให้เจอ และขวนขวายเรียนรู้ปรับวิถีคิด วิธีพูด วิธีทำใหม่ ที่จะเปลี่ยนทิศทางชีวิตสู่ภาวะที่ดีขึ้น

ส่วนที่บริสุทธิ์บ้าง ไม่บริสุทธิ์บ้าง เป็นที่ยอมรับบ้าง ไม่เป็นที่ยอมรับบ้าง พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า ให้วิปัสสนารู้ชัดถึงโทษภัยใหญ่หลวงของสมุทัยดั่งหลุมคูถ (อุจจาระ) ดั่งหินถ่านเพลิง ดั่งเครื่องจองจำ ดั่งเครื่องประหาร แล้วตั้งปณิธานแน่วแน่เด็ดเดี่ยวที่จะละ ที่จะดับ ที่จะหยุดการทำงานสิ้นเชิงซึ่งอวิชชา ตัณหา กิเลสให้หมดสิ้นเชื้อ ดับได้ก็จะเป็นที่ยอมรับมากขึ้น ในขณะที่ผู้นั้นต้องการการยอมรับน้อยลงโดยลำดับ

ลองประมาณตนดู แล้วบริหารให้เหมาะสมกับระดับวิวัฒนาการของตนกันนะ จะได้หลุดพ้นจากมายาของจิต มายาของโลก ความประสาททั้งของตนของคนอื่น ได้อิสรภาพสู่พุทธะอันบรมสุข สวัสดิภาพอมตะกันได้โดยเร็ว

 

โดยสรุป

ในจักรวาลแห่งความเป็นจริง ปรากฏว่า

ผู้ที่ไม่ต้องการการยอมรับ ย่อมได้รับการยอมรับโดยง่าย

ผู้ที่ล่าการยอมรับ ย่อมไม่ได้รับการยอมรับ หรือได้นิดหน่อยอย่างมีเงื่อนไขจำกัด และเป็นทุกข์

ผู้แย่งการยอมรับ ย่อมก่อสงครามประสาท จึงยับเยิน จนถึงย่อยยับ บรมทุกข์โดยปราศจากความจำเป็น

ผู้เป็นอิสระจากการยอมรับและการไม่ยอมรับ จึงสามารถบริหารทั้งการยอมรับและการไม่ยอมรับให้เกิดประโยชน์สุขทุกฝ่ายได้อย่างเป็นธรรมชาติและหมดจด

      

 

คำที่เกี่ยวข้อง :

ความต้องการการยอมรับ