Main navigation

จะออกจากอัตตา เข้าสู่อนัตตาได้อย่างไร

Q ถาม :

ท่านอาจารย์คะ ชาวพุทธก็เรียนกันมาตั้งแต่เด็กในคำสอนที่ว่า "สิ่งทั้งปวงไม่เป็นตน" แต่ทำไมพวกเรา หมายถึงตัวเองด้วย ชาวพุทธอื่น ๆ ด้วย ถึงยังมีตัวตนอยู่คะ และเราจะออกจากตัวตนได้อย่างไรคะ อยากเข้าถึงอนัตตาตามที่พระพุทธองค์ทรงสอนบ้าง

A อาจารย์ไชย ณ พล ตอบ :

๑. ความรู้เป็นแค่สัญญา ไม่เพียงพอแก่การบรรลุธรรม จำไปจนตายก็ยังไม่พ้นอัตตา ต้องยกระดับสู่ความเข้าใจ เป็นชั้นต้น

๒. เข้าใจว่า ธรรมชาติทั้งปวง ทั้งภายในอัตภาพนี้และในจักรวาลทั้งหมด เป็นสสารและพลังงานทำปฏิกริยากันไปมา ไม่เป็นอัตตาตัวตนของใครเลย แต่ในระหว่างปฏิกริยาแห่งสสารและพลังงานนั้น เกิดความรู้สึกขึ้น ความรู้สึกต่างคุณภาพ ทำให้เกิดแนวโน้มแห่งปรารถนาที่ต่างกัน รู้สึกดีก็อยากมีปฏิกริยาอีก รู้สึกไม่ดีก็พยายามถอยหนี ทิศทางการดึงเข้าผลักออกนี้ เรียกว่า ตัณหา ก็เป็นกลไกธรรมชาติ แต่ในธรรมชาติมีระบบบันทึกปรากฏการณ์ซ้ำไว้ เมื่อปรารถนาอย่างไรบ่อย ๆ ความทรงจำนั้นก็หนาแน่น เมื่อหนาแน่นก็เกาะกันเป็นมวลพลังจำเพาะ เรียกว่า อุปาทาน (การยึดถือ) เมื่อมีการยึดถือลักษณะจำเพาะของหน่วยธรรมชาติ จึงปรากฏความต่าง เสมือนเป็นบุคคล ความรู้สึกเป็นตนจึงเกิดขึ้น

เมื่อเกิดความรู้สึกเป็นตนจำเพาะแล้ว ครั้นไปมีปฏิกริยากับธรรมชาติอื่น ๆ ก็หันเกณฑ์การยึดถือมาทำปฏิกริยากัน เกิดการปรุงเพิ่ม ผลักออก ตัวตนเลยถูกแต่ง แตกตัวเป็นอัตตาบานปลาย ตามที่นิยามกันไป

ทั้งหมดคือสสารและพลังงาน และยังคงเป็นสสารและพลังงานอยู่ แต่กลไกการยึดทำให้กระจุกตัวเป็นลักษณะเฉพาะ นั่นเองที่สร้างความรู้สึกเสมือนอัตตาขึ้น ทั้ง ๆ ที่อัตตาไม่มี มีแต่สสารและพลังงาน

กระนั้นความเข้าใจความจริงเช่นนี้ก็ยังไม่เพียงพอแก่การบรรลุธรรม ยังเป็นเพียงภาพเข้าใจหนึ่ง ๆ ของจินตามยปัญญา ต้องพัฒนารู้สู่ปัญญาญาณ

๓. ตลอดทางแห่งปฏิกริยานั้นแหละ มีรู้ปรากฏด้วยตลอดเวลา ให้ focus ที่รู้ ทำรู้ให้ตั้งมั่นไม่หวั่นไหวกับปฏิกริยาใด ๆ เรียก "สติ" เมื่อได้สติแล้ว purify สติให้หมดจดลึกซึ้ง โดยลอกสิ่งปรุงแต่งออก ระดับความลึกซึ้งของสติ เรียก "สมาธิ" จากนั้นทำสมาธิให้ผ่องใสจนปรากฏแสงสว่างภายใน แสงจิตนี้ประณีตกว่าแสงโฟตอน เมื่อได้แสงจิตผ่องใสแล้ว ใช้แสงจิตส่องดูอัตตา จะประจักษ์แจ้งด้วยญาณว่า จริง ๆ แล้วไม่มีตัวตน เป็นเพียงปฏิกริยารวมศูนย์ที่สะสมทุกข์ไว้มากมาย ไม่ควรเก็บไว้ ไม่ควรสะสมอีกต่อไป

๔. วิราคะ กำหนด "ปล่อยวาง" "คลายกำหนัด" "สลัดคืน" ซึ่งปฏิกริยานิวเคลียร์ผลิตทุกข์ในจิตนี้ จนอัตตาแตกสลายไปไม่เหลือซาก

ทำได้ ก็บรรลุธรรม สำเร็จอรหันต์เลย จะเกิดอนัตตญาณแจ่มแจ้งสิ่งทั้งปวงอย่างโปร่งปรุ ไม่ต้องถูกจองจำไว้ในเตาปฏิกรณ์อัตตาใด ๆ อีก

 

 

 

ที่มา
19 May 2023