อาฬวกสูตร
ปุจฉาธรรมของอาฬวกยักษ์
อะไรเล่าเป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจอันประเสริฐที่สุดของบุรุษในโลกนี้
อะไรเล่าที่บุคคลประพฤติดีแล้วย่อมนำความสุขมาให้
อะไรเล่าเป็นรสยังประโยชน์ให้สำเร็จกว่ารสทั้งหลาย
นักปราชญ์ทั้งหลายได้กล่าวชีวิตของบุคคลผู้เป็นอยู่อย่างไรว่าประเสริฐที่สุด
บุคคลย่อมข้ามโอฆะได้อย่างไร
บุคคลย่อมข้ามอรรณพได้อย่างไร
บุคคลย่อมล่วงทุกข์ได้อย่างไร ย่อมบริสุทธิ์ได้อย่างไร
บุคคลย่อมได้ปัญญาอย่างไร
ย่อมหาทรัพย์ได้อย่างไร ย่อมได้ชื่อเสียงอย่างไร
ย่อมผูกมิตรทั้งหลายไว้ได้อย่างไร
บุคคลละจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศกอย่างไร
วิสัชชนาธรรมของพระพุทธเจ้า
ศรัทธา เป็นทรัพย์เครื่องปลื้มใจอันประเสริฐที่สุดของบุรุษในโลกนี้
ธรรมที่บุคคลประพฤติดีแล้วย่อมนำความสุขมาให้
สัจจะ เป็นรสยังประโยชน์ให้สำเร็จกว่ารสทั้งหลาย
นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตของบุคคลผู้เป็นอยู่ด้วยปัญญาว่าประเสริฐที่สุด
บุคคลย่อมข้ามโอฆะได้ด้วยศรัทธา
ข้ามอรรณพได้ด้วยความไม่ประมาท
ล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร
และบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา
บุคคลเชื่อธรรมของพระอรหันต์ทั้งหลาย เพื่อบรรลุนิพพาน เป็นผู้ไม่ประมาท มีปัญญาเป็นเครื่องสอดส่อง ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา
บุคคลผู้มีธุระ กระทำสมควร มีความหมั่น ย่อมหาทรัพย์ได้
บุคคลย่อมได้ชื่อเสียงด้วยสัจจะ
ผู้ให้ย่อมผูกมิตรไว้ได้
ผู้ใดมีศรัทธาอยู่ครองเรือน มีธรรม ๔ ประการนี้ คือ สัจจะ ธรรมะ ธิติ และจาคะ เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่เศร้าโศก
ถ้าหากว่าในโลกนี้จะมีเหตุแห่งการได้ชื่อเสียงที่ยิ่งไปกว่าสัจจะ มีเหตุแห่งการได้ปัญญาที่ยิ่งไปกว่าทมะ มีเหตุแห่งการผูกมิตรที่ยิ่งไปกว่าจาคะ หรือมีเหตุแห่งการหาทรัพย์ได้ที่ยิ่งไปกว่าขันติแล้ว ขอเชิญท่านไปถามสมณพราหมณ์เหล่าอื่นเถิด
เมื่อปุจฉาธรรมจบ อาฬวกยักษ์กล่าวว่า วันนี้ตนทราบชัดประโยชน์อันเป็นไปในภพหน้า พระผู้มีพระภาคเสด็จมาสู่เมืองอาฬวีเพื่อประโยชน์แก่ตน ทราบชัดพระทักขิไณยบุคคลผู้เลิศ ที่บุคคลถวายทานแล้วเป็นทานมีผลมาก ตนจะนอบน้อมพระสัมพุทธเจ้า และความที่พระธรรมเป็นธรรมดี เที่ยวไปจากบ้านสู่บ้าน จากเมืองสู่เมือง
อ่าน อาฬวกสูตร