Main navigation

มหานามสูตร

ว่าด้วย
อนุสติของพระอริยสาวก
เหตุการณ์
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่พระมหานามเรื่องวิหารธรรมที่พระอริยะอยู่เป็นส่วนมาก

เจ้าศากยะพระนามว่ามหานามะ ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า อริยสาวกผู้ได้บรรลุผลอยู่ด้วยวิหารธรรมใด พระผู้มีพระภาคตรัสตอบดังนี้

อริยสาวกในพระศาสนา ย่อมเจริญ พุทธานุสสติ ระลึกถึงพระพุทธเจ้าเนืองๆ ว่า พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็นผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม

อริยสาวกย่อมเจริญ ธรรมานุสสติ ระลึกถึงพระธรรมเนือง ๆ ว่า พระธรรมอันพระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว อันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้ดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนจะพึงรู้เฉพาะตน

อริยสาวกย่อมเจริญ สังฆานุสสติ ระลึกถึงพระสงฆ์เนือง ๆว่า พระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว เป็นผู้ปฏิบัติเพื่อญายธรรมเป็นผู้ปฏิบัติชอบ นี้คือคู่บุรุษ ๔ บุรุษบุคคล ๘ นั่นคือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ควรของคำนับ ควรของต้อนรับ ควรของทำบุญ ควรกระทำอัญชลี เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งไปกว่า 

อริยสาวกย่อมเจริญ สีลานุสสติ ระลึกถึงศีลของตนเนือง ๆ ที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทย อันวิญญูชนสรรเสริญ อันตัณหาทิฐิไม่ยึดถือ เป็นไปพร้อมเพื่อสมาธิ

อริยสาวกย่อมเจริญ จาคานุสสติ ระลึกถึงการบริจาคของตนเนือง ๆ ว่า เป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ คือ เมื่อหมู่สัตว์ถูกมลทินคือความตระหนี่กลุ้มรุม เรามีใจปราศจากมลทินคือความตระหนี่อยู่ครองเรือนเป็นผู้มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม (คอยหยิบของบริจาค) ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน

อริยสาวกย่อมเจริญ เทวตานุสสติ (ความระลึกถึงเทวดา) เนือง ๆ ว่า เทวดาเหล่าจาตุมหาราช ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี พรหมกายิกา และที่สูงกว่าเหล่าพรหม มีอยู่ เทวดาเหล่านั้นประกอบด้วย ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญาเช่นใด ศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญาเช่นนั้น แม้ตนก็มีอยู่

เมื่ออริยสาวกระถึงถึงพุทธานุสติ ธรรมานุสติ สังฆานุสติ สีลานุสติ จาคานุสติ เทวดานุสติ จิตของอริยสาวกนั้นย่อมไม่ถูกราคะ โทสะ โมหะ กลุ้มรุม เป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว

อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงเพราะปรารภพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ศีล จาคะ เทวดา ย่อมได้ความทราบซึ้งอรรถ ทราบซึ้งธรรม ย่อมได้ความปราโมทย์อันประกอบด้วยธรรม เมื่อได้ความปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปีติ เมื่อมีใจประกอบด้วยปีติ กายย่อมสงบ ผู้มีกายสงบแล้ว  ย่อมเสวยสุข เมื่อมีสุขจิตย่อมตั้งมั่น อริยสาวกนั้นเป็นผู้ถึงความสงบเรียบร้อยอยู่ ในเมื่อหมู่สัตว์ไม่สงบเรียบร้อย เป็นผู้ไม่มีความพยาบาทอยู่ ในเมื่อหมู่สัตว์ยังมีความพยาบาทกันอยู่

อริยสาวกผู้ได้บรรลุผล ทราบชัดพระศาสนาแล้วย่อมอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้เป็นส่วนมาก

 

 

อ่าน มหานามสูตร

อ้างอิง
มหานามสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๒ ข้อที่ ๒๘๑ หน้า ๒๙๗ - ๓๐๐
ชุดที่
ลำดับที่
11

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม