Main navigation

อุปายสูตร

ว่าด้วย
สิ่งที่เป็นความหลุดพ้นและไม่หลุดพ้น
เหตุการณ์
พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายเรื่องความหลุดพ้นและความไม่หลุดพ้น

ความเข้าถึงด้วยอำนาจตัณหา มานะ ทิฏฐิ เป็นความไม่หลุดพ้น ความไม่เข้าถึง เป็นความหลุดพ้น

วิญญาณเข้าถึงรูป เวทนา สัญญา สังขารก็ดี เมื่อตั้งอยู่ พึงตั้งอยู่
วิญญาณที่มีรูป เวทนา สัญญา สังขารเป็นอารมณ์
มีรูป เวทนา สัญญา สังขารเป็นที่ตั้ง
มีความยินดีเป็นที่เข้าไปซ่องเสพ ถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ 

การมา การไป จุติ อุปบัติ หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณที่ปราศจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

ถ้าภิกษุละความกำหนัดในรูปธาตุ ในเวทนาธาตุ ในสัญญาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุได้ อารมณ์ย่อมขาดสูญ ที่ตั้งแห่งวิญญาณย่อมไม่มี

วิญญาณเมื่อไม่มีที่ตั้ง ไม่งอกงาม ไม่แต่งปฏิสนธิ หลุดพ้นไป เพราะหลุดพ้นไป จึงดำรงอยู่ เพราะดำรงอยู่ จึงยินดีพร้อม เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตนเท่านั้น

ภิกษุนั้นย่อมทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี
 

 

อ่าน - อุปายสูตร

อ้างอิง
อุปายสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่ม ๑๗ ข้อที่ ๑๐๕ หน้า ๕๓
ชุดที่
ลำดับที่
14

สถานที่

วิหารเชตวัน

สถานการณ์

การปฏิบัติธรรม

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม