การแสวงหาและการใช้จ่ายทรัพย์
กามโภคีบุคคล ๑๐ จำพวก
๑. แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ เมื่อหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๒. แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ เมื่อหาได้แล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน คือ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
๓. แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ เมื่อหาได้แล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
ควรสรรเสริญโดยสถาน ๒ คือ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- แจกจ่าย กระทำบุญ
๔. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง เมื่อหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๕. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง เมื่อหาได้แล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ควรติเตียนโดย ๓ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
- ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๖. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมและไม่ชอบธรรม โดยทารุณบ้าง ไม่ทารุณบ้าง เมื่อหาได้แล้วเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ ควรสรรเสริญโดย ๓ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์ โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- แจกจ่าย กระทำบุญ
ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยไม่ชอบธรรม โดยทารุณ
๗. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ เมื่อหาได้แล้ว ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๑ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
ควรติเตียนโดย ๒ สถาน คือ
- ไม่เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๘. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ เมื่อหาได้แล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แต่ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๒ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ
ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ
- ไม่แจกจ่าย ไม่กระทำบุญ
๙. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรมโดยไม่ทารุณ เมื่อหาได้แล้ว เลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่ายกระทำบุญ แต่เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น จดจ่อ ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น
กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๓ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ
- แจกจ่าย กระทำบุญ
ควรติเตียนโดย ๑ สถาน คือ
- เป็นผู้กำหนัด หมกมุ่น พัวพัน ไม่เห็นโทษ ไม่มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคทรัพย์นั้น
๑๐. แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ เมื่อหาได้แล้ว ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข ให้อิ่มหนำ แจกจ่าย กระทำบุญ และเป็นผู้ไม่กำหนัด ไม่หมกมุ่น เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคโภคทรัพย์นั้น
กามโภคีบุคคลนี้ควรสรรเสริญโดย ๔ สถาน คือ
- แสวงหาโภคทรัพย์โดยชอบธรรม โดยไม่ทารุณ
- เลี้ยงตนให้เป็นสุขให้อิ่มหนำ
- แจกจ่าย กระทำบุญ
- เป็นไม่ผู้กำหนัด ไม่หมกมุ่น ไม่พัวพัน เห็นโทษ มีปัญญาเป็นเครื่องสลัดออก บริโภคทรัพย์นั้น
กามโภคีจำพวกสุดท้ายนี้ เป็นผู้เลิศ ประเสริฐ เป็นใหญ่สูงสุด ดีกว่ากามโภคีบุคคล จำพวกอื่น
อ่านพระสูตรเต็ม กามโภคีสูตร