ผลของการให้ทาน
สุมนาราชกุมารี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคและได้ทูลถามถึงผลของการให้ทาน ดังนี้
1. หากสาวก ๒ คน มีศรัทธา มีศีล มีปัญญาเท่าๆกัน คนหนึ่งเป็นผู้ให้ คนหนึ่งไม่ให้ คนทั้งสองนั้น เมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค แต่คนทั้งสองนั้น ทั้งที่เป็นเทวดาเหมือนกัน มีความแตกต่างกัน คือ ผู้ให้เป็นเทวดาย่อมข่มเทวดาผู้ไม่ให้ด้วยเหตุ ๕ ประการคือ อายุ วรรณะ สุข ยศ และอธิปไตยที่เป็นทิพย์
2. ถ้าเทวดาทั้งสองนั้นจุติจากเทวโลก มาสู่ความเป็นมนุษย์ ทั้งที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน คนทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกัน คือ ผู้ให้เป็นมนุษย์ ย่อมข่มคนไม่ให้ได้ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ ด้วยอายุ วรรณะ สุขยศ และอธิปไตยที่เป็นของมนุษย์
3. ถ้าคนทั้งสองนั้นออกบวช ทั้งที่เป็นบรรพชิตเหมือนกัน คนทั้งสองนั้นมีความแตกต่างกัน คือ คนที่ให้เป็นบรรพชิต ย่อมข่มคนที่ไม่ให้ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ เมื่อออกปากขอ ย่อมได้จีวร บิณฑบาต เสนาสนะ บริขารมาก เมื่อไม่ออกปากขอ ย่อมได้น้อย และจะอยู่ร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์เหล่าใด เพื่อนพรหมจรรย์เหล่านั้นก็ประพฤติต่อด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม เป็นที่พอใจเป็นส่วนมาก ไม่เป็นที่พอใจเป็นส่วนน้อย ย่อมนำสิ่งเป็นที่พอใจมาเป็นส่วนมาก ย่อมนำสิ่งไม่เป็นที่พอใจมาเป็นส่วนน้อย
4. ถ้าคนทั้งสองนั้นบรรลุอรหัต คนทั้งสองนั้นจะไม่มีเหตุแตกต่างกันใดๆ ในวิมุตติ
ดังนั้น ควรให้ทาน ควรทำบุญ เพราะบุญเป็นอุปการะแม้แก่เทวดา แม้แก่มนุษย์ แม้แก่บรรพชิต ฯ
บุคคลผู้สมบูรณ์ด้วย ศีล มีศรัทธา ย่อมไพโรจน์กว่าผู้ตระหนี่ทั้งปวงในโลกด้วยจาคะ ย่อมข่มผู้ตระหนี่ได้ด้วยฐานะ ๕ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุข ยศ และเปี่ยมด้วยโภคะ ย่อมบันเทิงใจในสวรรค์ในปรโลก
อ่านพระสูตรเต็ม สุมนสูตร