ภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับย่อมกล่าวภัย ๓ อย่างนี้ว่า เป็นอมาตาปุตติกภัย
๑. สมัยที่เกิดไฟไหม้ใหญ่ แม้บ้าน นิคม นครก็ถูกไฟเผา ในที่นั้น ๆ แม้มารดาก็ไม่พบบุตร แม้บุตรก็ไม่พบมารดา
๒. สมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้น เกิดห้วงน้ำใหญ่ แม้บ้าน นิคม นครก็ถูกน้ำพัดไป ในที่นั้น ๆ แม้มารดาก็ไม่พบบุตร แม้บุตรก็ไม่พบมารดา
๓. สมัยที่มีภัยคือโจรป่ากำเริบ พวกชาวชนบทต่างพากันหนีไป ในที่นั้น ๆ แม้มารดาก็ไม่พบบุตร แม้บุตรก็ไม่พบมารดา
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับย่อมกล่าวสมาตาปุตติกภัย ๓ อย่างนี้ ว่า เป็นอมาตาปุตติกภัย
๑. สมัยที่เกิดไฟไหม้ใหญ่ แม้บ้าน นิคม นครก็ถูกไฟเผา สมัยที่มารดาก็พบบุตร แม้บุตรก็พบมารดา เป็นบางครั้งบางแห่ง มีอยู่
๒. สมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้น เกิดห้วงน้ำใหญ่ แม้บ้าน นิคม นครก็ถูกน้ำพัดไป สมัยที่มารดาก็พบบุตร แม้บุตรก็พบมารดา เป็นบางครั้งบางแห่ง มีอยู่
๓. สมัยที่มีภัยคือโจรป่ากำเริบ พวกชาวชนบทต่างพากันหนีไป สมัยที่มารดาก็พบบุตร แม้บุตรก็พบมารดา เป็นบางครั้งบางแห่งมีอยู่
อมาตาปุตติกภัย ๓ ประการ ได้แก่
ภัยคือความแก่ ๑ เมื่อบุตรแก่ มารดาย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงแก่ บุตรของเราอย่าได้แก่ หรือว่า เมื่อมารดาแก่ บุตรย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงแก่ มารดาของเราอย่าได้แก่
ภัยคือความเจ็บ ๑ เมื่อบุตรเจ็บไข้ มารดาย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงเจ็บไข้ บุตรของเราอย่าเจ็บไข้ หรือว่า เมื่อมารดาเจ็บไข้ บุตรย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงเจ็บไข้ มารดาของเราอย่าเจ็บไข้
ภัยคือความตาย ๑ เมื่อบุตรกำลังจะตายมารดาย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงตาย บุตรของเราอย่าได้ตาย ก็หรือว่าเมื่อมารดากำลังจะตาย บุตรย่อมไม่ได้ตามใจหวังดังนี้ว่า เราจงตาย มารดาของเราอย่าได้ตาย
มรรคาปฏิปทาซึ่งเป็นไปเพื่อละ เพื่อก้าวล่วงสมาตาปุตติกภัย ๓ อย่างนี้ และอมาตาปุตติกภัย ๓ อย่างนี้ คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
อ่าน ภยสูตร