ความตายของผู้มีศรัทธา
พระผู้มีพระภาคเสด็จไปโปรดมัฏฐกุณฑลีซึ่งนอนป่วยหนักอยู่ที่ระเบียงบ้าน เมื่อเสด็จไปถึงทรงเปล่งพระรัศมี มัฏฐกุณฑลีจึงหันมาเห็นพระศาสดาแล้วคิดว่า ตนไม่ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อทำความขวนขวายด้วยกาย หรือถวายทาน หรือฟังธรรม เดี๋ยวนี้แม้แต่มือสองข้างก็ยกไม่ไหว กิจที่ควรทำอย่างอื่นไม่มี จึงได้ทำใจเท่านั้นให้เลื่อมใส เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จลับตาไป มาณพนั้นมีใจเลื่อมใสในพระศาสดาได้สิ้นชีวิต ไปเกิดในวิมานทองสูงประมาณ ๓๐ โยชน์ในเทวโลก
ต่อมาภายหลังเทพบุตรนั้นได้มาพบกับบิดา และเล่าเรื่องราวของตนให้ฟัง พราหมณ์นั้นจึงเกิดความเลื่อมใสและขอถึงพระผู้มีพระภาคเป็นสรณะในวันนั้น เทพบุตรนั้นได้ให้โอวาทแก่บิดาให้เป็นผู้มีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ และสมาทานสิกขาบท ๕ อย่าให้ขาด และบอกให้บิดานำทรัพย์ในเรือนไปถวายทาน ฟังธรรม และถามปัญหาพระพุทธองค์
เมื่อพบพระพุทธองค์ พราหมณ์ก็ได้เข้าไปถามพระองค์ว่า ชนที่ไม่ได้ถวายทานแก่พระองค์ ไม่ได้บูชาพระองค์ ไม่ได้ฟังธรรม ไม่ได้รักษาอุโบสถเลย ได้ไปเกิดในสวรรค์ด้วยใจเลื่อมใสอย่างเดียวเท่านั้น มีหรือ
พระศาสาดาได้ทรงอธิษฐานว่าขอมัฏฐกุณฑลีเทวบุตร มาพร้อมด้วยวิมานของตน แล้วพระศาสดาก็ตรัสถามว่า เมื่อเป็นมนุษย์ได้ทำบุญอะไรไว้ จึงมีกายงามยิ่ง ทำทิศทั้งหมดให้สว่าง
เทพบุตรกราบทูลว่า สมบัตินี้ได้แล้ว เพราะทำใจให้เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาค
มหาชนแลดูเทพบุตรแล้ว ได้ประกาศความยินดีว่าน่าอัศจรรย์จริง บุตรของพราหมณ์ไม่ได้ทำบุญอะไร ๆ อย่างอื่น เพียงยังใจให้เลื่อมใสในพระศาสดาแล้ว ได้สมบัติเห็นปานนี้
แล้วพระศาสดาได้ตรัสแก่พวกชนผู้เข้ามาฟังธรรมในวันนั้นว่า
ในการทำกรรมที่เป็นกุศลและอกุศล ใจเป็นหัวหน้า ใจเป็นใหญ่ เพราะว่ากรรมที่ทำด้วยใจอันผ่องใสแล้ว ย่อมไม่ละบุคคลผู้ไปสู่เทวโลกมนุษยโลก ดุจเงา ฉะนั้น
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจเป็นใหญ่ สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจผ่องใสแล้ว พูดอยู่ก็ดี ทำอยู่ก็ดี ความสุขย่อมไปตามเขาเพราะเหตุนั้น เหมือนเงาไปตามตัว
เมื่อจบคาถา เหล่าสัตว์แปดหมื่นสี่พันได้ตรัสรู้ธรรม มัฏฐกุณฑลีเทพบุตรและอทินนปุพพกพราหมร์ตั้งอยู่แล้วในพระโสดาปัตติผล
อ่าน คาถาธรรมบท ยมกวรรค
อ่าน อรรถกถาเรื่อง มัฏฐกุณฑลี