ทุกข์ย่อมเกิดแต่ของที่รัก
พระผู้มีพระภาคตรัสแก่คฤหบดีผู้เศร้าโศกเพราะการสูญเสียลูกชายว่า ความโศกเศร้า ความทุกข์ ความคับแค้นใจ ความสิ้นหวัง ย่อมเกิดแต่ของที่รัก แต่คฤหบดีคิดว่าความยินดี ความสุข ย่อมเกิดแต่ของที่รัก
เรื่องที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาสย่อมเกิดแต่ของที่รัก เป็นมาแต่ของที่รัก แพร่ไปถึงพระราชวัง พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงเรียกพระนางมัลลิกามาเพื่อตรัสถามว่าเป็นจริงหรือ
พระนางมัลลิกากราบทูลว่า ถ้าพระผู้มีพระภาคตรัสจริง คำนั้นก็เป็นอย่างนั้น พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงตรัสให้พระนางมัลลิกาหลบหน้าไป
พระนางมัลลิกาตรัสเรียกพราหมณ์มาให้ไปทูลถามว่าพระพุทธเจ้าตรัสคำนั้นจริงหรือ และให้พราหมณ์เรียนพระดำรัสนั้นให้ดีแล้วมาบอกตนเพราะพระตถาตทั้งหลายย่อมตรัสไม่ผิดพลาด
พระผู้มีพระภาคทรงกล่าวถึงเหตุการณ์ที่บุคคลได้สูญเสียมารดา บิดา พี่ชาย น้องชาย บุตร ธิดาและบุคคลอันเป็นที่รักไป บุคคลนั้นย่อมเศร้าโศกเสียใจถึงสิ่งที่ตนรัก
พระนางมัลลิกาจึงไปกราบทูลพระเจ้าปเสนทิโกศลว่าหากบุคคลอันเป็นที่รักของพระเจ้าปเสนทิโกศลหรือแคว้นกาสีและโกศลแปรปรวนไป พระเจ้าปเสนทิโกศลจะมีความทุกข์เศร้าโศกหรือไม่
เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงทราบถึงเหตุที่ความเศร้าโศก ความทุกข์ ความคับแค้นใจย่อมเกิดจากของที่รักแล้ว ทรงเปล่งอุทานว่า ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น สามครั้ง
อ่าน ปิยชาติกสูตร