สุขุมสูตร
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า สุนัขจิ้งจอกได้ยืนอยู่ใกล้เต่าด้วยคิดว่า เวลาใดเต่าจักเหยียดคอหรือขาข้างใดข้างหนึ่งออกมา เวลานั้นเราจักงับมันฟาดแล้วกัดกินเสีย เมื่อเต่าไม่เหยียดคอหรือขาข้างใดข้างหนึ่งออกมา เวลานั้น สุนัขจิ้งจอกก็หมดความอาลัย ไม่ได้โอกาส จึงหลีกไปจากเต่า
มารผู้ใจบาปอันเราทั้งหลายเข้าใกล้อยู่เสมอๆ คิดว่า บางทีจะพึงได้โอกาสทางจักษุ หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ ของภิกษุบ้าง เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลายอยู่
ภิกษุเห็นรูปด้วยจักษุ ฟังเสียงด้วยหู... ดมกลิ่นด้วยจมูก... ลิ้มรสด้วยลิ้น... ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย... รู้แจ้งธรรมารมณ์ด้วยใจแล้ว อย่าถือนิมิต อย่าถืออนุพยัญชนะ จงปฏิบัติเพื่อสำรวมอินทรีย์ทั้ง ๖ ที่เมื่อไม่สำรวมแล้ว จะพึงเป็นเหตุให้อกุศลธรรมอันลามก คือ อภิชฌา และโทมนัสครอบงำ ชื่อว่ารักษาอินทรีย์ ชื่อว่าถึงความสำรวมในอินทรีย์
เวลาใด ภิกษุทั้งหลายเป็นผู้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลายอยู่ เวลานั้นมารผู้ใจบาปก็จักหมดความอาลัย ไม่ได้โอกาส หลีกจากท่านทั้งหลายไป
ภิกษุผู้มีใจตั้งมั่นในมโนวิตก อันตัณหา มานะ และทิฐิไม่อิงอาศัย ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ดับกิเลสได้แล้ว ไม่ติเตียนผู้ใดผู้หนึ่ง เหมือนเต่าหดคอและขาอยู่ในกระดองของตน ฉะนั้น
อ่าน กุมมสูตร