Main navigation

พระโสปากเถระ

ว่าด้วย
ผู้อุปสมบทด้วยการพยากรณ์ปัญหา
เหตุการณ์
บุพกรรมและคาถาสุภาษิตของพระโสปากเถระ

พระโสปากเถระได้บำเพ็ญบุญญาธิการไว้ในพระพุทธเจ้าปางก่อนทั้งหลาย

ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ บังเกิดในตระกูลพราหมณ์  เห็นโทษในกาม จึงละการครองเรือน บวชเป็นดาบสอยู่ ณ ภูเขาลูกหนึ่ง พระศาสดาทรงทราบว่าดาบสนั้นใกล้จะมรณภาพ จึงได้เสด็จไปสำนักของท่าน

ดาบสเห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วมีจิตเลื่อมใส มีปีติและปราโมทย์อันยิ่งใหญ่ จึงได้ตกแต่งอาสนะดอกไม้ถวาย

พระศาสดาตรัสธรรมีกถาอันสัมปยุตด้วยอนิจจตา ดาบสละการยึดถือว่าเที่ยงที่ตนเคยถือในกาลก่อน แล้วตั้งอนิจจสัญญาไว้ในใจได้ ๑ วัน เสียชีวิต แล้วได้เกิดในเทวโลก ท่องเที่ยวไป ๆ มา ๆ อยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

ในพุทธุปบาทกาลนี้ บังเกิดในโสปากกำเนิด คือ ผู้เกิดและเติบโตในป่าช้า ในเมืองราชคฤห์ ชื่อว่า โสปากะ

เมื่อท่านเกิดได้ ๔ เดือน บิดาก็ตาย อาจึงเลี้ยงไว้ เมื่อท่านอายุได้ ๗ ขวบ ทะเลากับลูกของอา อาจึงนำไปยังป่าช้า เอาเชือกผูกมัดอย่างแน่นติดกับร่างของคนตาย หวังให้สุนัขจิ้งจอกกัดกิน เพราะท่านเป็นผู้มีภพครั้งสุดท้าย สุนัขจิ้งจอกก็ไม่อาจทำอันตรายท่านได้

ในเวลาเที่ยงคืน พระศาสดาทรงตรวจดูเวไนยสัตว์ ทรงเห็นอุปนิสัยแห่งพระอรหัตอันโพลงอยู่ในภายในหทัยของเด็ก จึงทรงแผ่พระโอภาสทำให้เกิดสติ แล้วตัดเครื่องผูกให้ขาด กล่าวว่า

มาเถิดโสปากะ อย่ากลัว จงแลดูตถาคต เราจะยังเธอให้ข้ามพ้นไป ดุจพระจันทร์พ้นจากปากราหู

ในเวลาจบคาถา ก็ได้เป็นพระโสดาบัน

มารดาของท่านนั้นไม่เห็นบุตรจึงไปค้นหาในที่ต่าง ๆ แล้วไปทูลถามพระพุทธองค์

พระศาสดาทรงปกปิดโสปากะไว้ด้วยพระฤทธิ์ และตรัสธรรมว่า

บุตรทั้งหลายย่อมไม่มีเพื่อความเป็นผู้ต้านทาน บิดาก็ดี เผ่าพันธุ์ก็ดี ย่อมไม่มีเพื่อความเป็นผู้ต้านทาน ความต้านทานในหมู่ญาติ ย่อมไม่มีแก่ผู้อันความตายถึงทับแล้ว

มารดาได้ฟังธรรมนั้นแล้ว ได้เป็นพระโสดาบัน ส่วนโสปากะ บุตรชายได้บรรลุพระอรหัต

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงคลายพระฤทธิ์ มารดาก็ได้เห็นบุตร ร่าเริงดีใจ ได้ฟังว่าบุตรนั้นเป็นพระขีณาสพ จึงให้บวชแล้วก็ไป

ท่านโสปากะเข้าไปเฝ้าพระศาสดา ซึ่งกำลังเสด็จจงกรมอยู่ในร่มเงาแห่งพระคันธกุฎี พระผู้มีพระภาคเจ้าประสงค์จะทรงอนุญาตอุปสมบทแก่ท่าน จึงมีพระดำรัสถามปัญหา

ท่านโสปากะทูลแก้ปัญหาพระพุทธองค์ ทั้ง ๑๐ ข้อดังนี้

อะไรชื่อว่า ๑
สัตว์ทั้งปวงตั้งอยู่ได้เพราะอาหาร

อะไรชื่อว่า ๒
นามและรูป

อะไรชื่อว่า ๓
เวทนา ๓

อะไรชื่อว่า ๔
อริยสัจ ๔

อะไรชื่อว่า ๕
อุปาทานขันธ์ ๕

อะไรชื่อว่า ๖
อายตนะภายใน ๖

อะไรชื่อว่า ๗
โพชฌงค์ ๗

อะไรชื่อว่า ๘
อริยมรรคมีองค์ ๘

อะไรชื่อว่า ๙
สัตตาวาส ๙

อะไรชื่อว่า ๑๐
ผู้ประกอบด้วยองค์ ๑๐ ท่านกล่าวว่า เป็นพระอรหันต์

ด้วยเหตุนั้น ปัญหาเหล่านั้นจึงชื่อว่า กุมารปัญหา

พระศาสดาทรงมีพระทัยโปรดปรานการแก้ปัญหาของท่าน จึงทรงอนุญาตการอุปสมบท อุปสมบทนั้นจึงชื่อว่า ปัญหพยากรณอุปสมบท หรืออุปสมบทด้วยการพยากรณ์ปัญหา

สมัยต่อมา พระเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า

เราได้เห็นพระพุทธเจ้าผู้สูงสุดกว่านรชน เสด็จจงกรมอยู่ในร่มเงาแห่งพระคันธกุฎี จึงเข้าไปเฝ้าพระองค์ ณ ที่นั้น แล้วถวายบังคม

เราห่มจีวรเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมมือ จงกรมตามพระองค์ ผู้ปราศจากกิเลสธุลี ผู้สูงสุดกว่าสัตว์ทั้งปวง

ลำดับนั้น พระองค์ได้ตรัสถามปัญหาเรา เราเป็นผู้ฉลาด รอบรู้ปัญหาทั้งหลาย เป็นผู้ไม่มีความหวาดหวั่น และไม่กลัว ได้พยากรณ์ปัญหาแด่พระศาสดา

เมื่อเราวิสัชนาปัญหาแล้ว พระตถาคตทรงอนุโมทนา ทรงตรวจดูหมู่ภิกษุแล้ว ได้ตรัสเนื้อ ความนี้ว่า

โสปากภิกษุนี้บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัย ของชาวอังคะและมคธเหล่าใด ก็เป็นลาภของชาวอังคะและมคธเหล่านั้น

เป็นลาภของชาวอังคะและมคธที่ได้ต้อนรับและทำสามีจิกรรมแก่โสปากภิกษุ

 


อ่าน สามเณรปัญหาในขุททกปาฐะ และอรรถกถา
อ่าน โสปากเถรคาถา
อ่าน โสปากเถราปทาน

อ้างอิง
โสปากเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๖ ข้อที่ ๓๖๔ หน้า ๓๘๙
ลำดับที่
7

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ