Main navigation

คันธภกสูตร

ว่าด้วย
เหตุเกิดและเหตุดับแห่งทุกข์
เหตุการณ์
ณ อุรุเวลกัปปะ นิคมของมัลลกษัตริย์ ในมัลลรัฐน ายบ้านนามว่า คันธภกะกราบทูลขอพระผู้มีพระภาคให้ทรงแสดงเหตุเกิดและเหตุดับแห่งทุกข์

พระผู้มีพระภาคตรัสกับนายบ้านคันธภกะว่า

ก็ถ้าทรงปรารภอดีตกาลแสดงเหตุเกิดและเหตุดับแห่งทุกข์ว่า ในอดีตกาลได้มีแล้วอย่างนี้ ความสงสัย ความเคลือบแคลงจะพึงมีแก่นายคามณี

ถ้าทรงปรารภอนาคตกาลแสดงเหตุเกิดและเหตุดับแห่งทุกข์ว่า ในอนาคตกาลจักมีอย่างนี้ แม้ในข้อนั้น ความสงสัย ความเคลือบแคลง จะพึงมีแก่นายคามณี

ท่านจะทรงนั่ง ณ ที่นั้น แล้วแสดงเหตุเกิดและเหตุดับแห่งทุกข์แก่นายคามณีซึ่งนั่งอยู่ที่นี่เหมือนกัน

แล้วตรัสพระดำรัสนี้ว่า

ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ โทมนัส และอุปายาส พึงเกิดขึ้นแก่นายคามณีเพราะมนุษย์ในอุรุเวลกัปปนิคมตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียนหรือไม่

นายคามณีตอบว่า มีอยู่

แล้วทรงถามต่อไปว่า

ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ โทมนัส และอุปายาส ไม่พึงเกิดขึ้นแก่นายคามณีเพราะมนุษย์ในอุรุเวลกัปปนิคมตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียนหรือไม่

นายคามณีตอบว่า มีอยู่

แล้วทรงถามต่อไปว่า

อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ โทมนัส และอุปายาสเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้น

นายคามณีตอบว่า ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์โทมนัสและอุปายาส พึงเกิดขึ้นแก่ตนก็เพราะนายคามณีมีฉันทราคะในชาวอุรุเวลกัปปนิคมที่ตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียนเหล่านั้น

ส่วนความโศก ความร่ำไรความทุกข์โทมนัสและอุปายาส ไม่พึงเกิดขึ้นแก่ตนก็เพราะนายคามณีไม่มีฉันทราคะในชาวอุรุเวลกัปปนิคมที่ตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียนเหล่านั้น

พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า

ท่านจงนำไปซึ่งทุกข์อันใดด้วยธรรมที่เห็นแล้ว ทราบแล้ว บรรลุแล้ว ไม่ประกอบด้วยกาล หยั่งลงแล้ว ทั้งอดีตและอนาคต

ทุกข์ในอดีตกาล ในอนาคตกาลอย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อเกิด ย่อมเกิดขึ้น ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะฉันทะเป็นมูลแห่งทุกข์

นายคามณีกล่าวต่อไปว่า พระผู้มีพระภาคตรัสดีแล้ว กุมารจิวาสีบุตรของตนอาศัยอยู่นอกเมือง เมื่อเข้าสั่งบุรุกษไปดูกุมารจิวาสี ถ้าบุรุษนั้นยังไม่มา ความกระวนกระวายย่อมมีแก่ตน

แม้เมื่อจิรวาสีกุมารยังมีชีวิตอยู่ ตนยังมีความกระวนกระวายใจ ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์โทมนัสและอุปายาส จักเกิดขึ้นแก่ตน เพราะจิรวาสีกุมารตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียน

พระผู้มีพระภาคตรัสถามต่อไปว่า

เมื่อไม่ได้เห็นมารดาของจิรวาสีกุมาร ไม่ได้ฟังเสียง เมื่อนั้น ไม่มีความพอใจ ความกำหนัดหรือความรักในมารดาของจิรวาสีกุมารหรือ

เพราะอาศัยการเห็นหรือการฟัง นายคามณีจึงมีความพอใจ ความกำหนัดหรือความรักในมารดาของจิรวาสีกุมาร

นายคามณีกล่าวว่าแม้เมื่อมารดาของจิรวาสีกุมารมีชีวิตอยู่ ตนยังมีความกระวนกระวายใจ ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จักเกิดขึ้นแก่ตน เพราะมารดาจิรวาสีกุมารตาย ถูกจองจำ เสื่อมทรัพย์ หรือถูกติเตียน

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า นายคามณีพึงทราบความข้อนั้นโดยปริยายนี้ว่า ทุกข์อย่างใดอย่างหนึ่งเมื่อเกิด ย่อมเกิดขึ้น ทุกข์ทั้งหมดนั้นมีฉันทะเป็นมูล มีฉันทะเป็นเหตุ เพราะฉันทะเป็นมูลเหตุแห่งทุกข์

 

 

อ่าน คันธภกสูตร

 

อ้างอิง
คันธภกสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๘ ข้อที่ ๖๒๗-๖๒๘
ลำดับที่
11

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระธรรม

ธรรมปฏิบัติ

พระธรรม

วิเวก

พระธรรม

ธรรมวิภังค์

พระธรรม

เวทัลลธรรม

พระธรรม

อานุภาพกรรม

พระธรรม

สุคติ สุคโต

พระธรรม

ฆราวาสธรรม