Main navigation

ผู้มีสุตะน้อยเหมือนโคถึก

ว่าด้วย
พระโลฬุทายีเถระ
เหตุการณ์
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ในพระเชตวัน ทรงปรารภพระโลฬุทายีเถระ

พระโลฬุทายีเถระไปสู่เรือนของหมู่คนผู้ทำการมงคล ก็กล่าวอวมงคล ไปเรือนของผู้ทำการอวมงคล ก็กล่าวมงคลคาถา เมื่อคิดว่า จักสวดสูตรอื่น แม้สวดสูตรอื่นอยู่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่า สวดสูตรอื่น 

ภิกษุทั้งหลายฟังกถาของพระโลฬุทายีเถระแล้ว ได้กราบทูลแด่พระศาสดา พระศาสดาตรัสว่าโลฬุทายีกล่าวอย่างนี้มาตั้งแต่อดีตกาลแล้ว แล้วทรงนำอดีตนิทานมาเล่า

บุรพกรรมของพระโลฬุทายี

ในอดีตกาล พราหมณ์ชื่ออัคคิทัต ในกรุงพาราณสี อาศัยกสิกรรมเลี้ยงชีพ มีบุตรชื่อโสมทัตกุมาร เป็นมหาดเล็ก พราหมณ์นั้นมีโค ๒ ตัว ใน ๒ ตัวนั้น ตัว ๑ ได้ล้มเสียแล้ว พราหมณ์จึงขอบุตรชายให้ทูลขอโคจากพระราชาให้ตัวหนึ่ง

มหาดเล็กโสมทัตคิดว่าถ้าตนจักขอพระราชทานกะพระราชา ความเป็นคนผลุนผลันจักปรากฏแก่ตน จึงขอให้พ่อขอพระราชทานกะพระราชาเอง

โสมทัตคิดว่าพ่อตนมีปัญญาช้า ย่อมไม่รู้จักแม้สักแต่คำพูด เป็นต้นว่า จงไปข้างหน้า จงถอยมาข้างหลัง เมื่อคำอื่นอันควรพูด ก็ไพล่พูดคำอื่นเสีย ตนจะให้สำเหนียกแล้วจึงพาท่านไป

เขาพาพ่อไปป่าช้า แล้วมัดฟ่อนหญ้าหลายฟ่อน ทำสมมติว่า ฟ่อนหญ้านี้เป็นพระราชา ฟ่อนหญ้านี้เป็นวังหน้า ฟ่อนหญ้านี้เป็นเสนาบดี เป็นต้น แสดงแก่บิดาตามลำดับ แล้วชี้แจงว่าไปราชสกุลต้องเดินหน้าอย่างนี้ ต้องถอยหลังอย่างนี้ พระราชาต้องกราบบังคมทูลอย่างนี้ วังหน้า ต้องกราบทูลอย่างนี้ เฝ้าพระราชาแล้ว ต้องถวายชัยมงคลอย่างนี้ ว่าคาถาแล้ว ขอพระราชทานโคว่า

“ข้าแต่พระมหาราชเจ้า ผู้สมมติเทพ โคสำหรับไถนาของข้าพระพุทธเจ้ามี ๒ ตัว ในโค ๒ ตัวนั้น ตัวหนึ่งล้มเสียแล้ว พระองค์ผู้เทพขัตติยราช ขอพระองค์ผู้สมมติเทพ จงพระราชทานตัวที่ ๒ เถิด”

พราหมณ์นั้นท่องคาถานั้นให้คล่องแคล่วราวปีหนึ่ง แล้วบอกแก่บุตร โสมทัตจึงนำเครื่องบรรณาการนิดหน่อยจากพ่อ แล้วไปราชสำนักก่อน

พระราชาตรัสถามพราหมณ์ว่า ต้องการสิ่งใด พราหมณ์กราบทูลความที่ท่องมาว่า โคสำหรับไถนาของตนมี ๒ ตัว ในโค ๒ ตัวนั้น ตัวหนึ่งล้มเสียแล้ว ขอพระราชาจงทรงถือเอาตัวที่ ๒ มา

เมื่อพระราชาให้พราหมณ์กล่าวซ้ำอีกครั้ง พราหมณ์นั้นก็คงกล่าวคาถาบทนั้นเอง

พระราชาทรงทราบความที่พราหมณ์กล่าวผิด ทรงแย้มสรวล แล้วตรัสกับโสมทัต บุตรของพราหมณ์ว่า โคในบ้านของโสมทัตเห็นจะมาก

โสมทัตจึงกราบทูลว่าโคอันพระราชาทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานแล้ว จักมีมาก

พระราชาทรงโปรดปรานโสมทัต ผู้โพธิสัตว์ จึงพระราชทานโค ๑๖ ตัวแก่พราหมณ์ และสิ่งของเครื่องอลังการและบ้านที่อยู่แก่โสมทัตโพธิสัตว์นั้นให้เป็นพรหมไทย แล้วจึงทรงส่งพราหมณ์ไปด้วยยศใหญ่

พระผู้มีพระภาคครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ประชุมอรรถกถาโสมทัตตชาดกว่า

พระราชาในครั้งนั้นเป็นพระอานนท์
ตาพราหมณ์ เป็นโลฬุทายี
มหาดเล็กโสมทัต เป็นพระตถาคต

แล้วตรัสว่า โลฬุทายีนี้ เมื่อคำอื่นอันควรพูดก็ไพล่พูดคำอื่นไปเสีย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ก็พูดแล้ว เพราะความที่เป็นคนได้สดับธรรมน้อย เพราะว่ามีสุตะน้อย ชื่อว่าเป็นเหมือนโคถึก

จึงตรัสพระคาถาว่า

คนมีสุตะน้อยนี้ ย่อมแก่เหมือนโคถึก เนื้อของเขาย่อมเจริญ แต่ปัญญาของเขาหาเจริญไม่ 

ในเวลาจบเทศนา มหาชนบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผล เป็นต้นแล้ว

 

อ่าน คาถาธรรมบท ชราวรรค
อ่าน พระโลฬุทายีเถระ

อ้างอิง
คาถาธรรมบท ชราวรรค พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๒๑ หน้า ๒๕ พระโลฬุทายีเถระ พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เล่มที่ ๔๒ หน้าที่ ๑๗๒-๑๗๗
ลำดับที่
11

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ