ความเป็นอยู่ของผู้ไร้ปัญญา
พระขานุโกณฑัญญเถระเรียนกัมมัฏฐานในสำนักพระศาสดา อยู่ในป่า บรรลุพระอรหัตแล้ว คิดว่าจักทูลพระศาสดา ในระหว่างทาง เหน็ดเหนื่อย แวะจากทางนั่งเข้าฌานบนศิลาดาดแห่งหนึ่ง
ครั้งนั้น โจร ๕๐๐ คนปล้นบ้านแห่งหนึ่ง แล้วผูกห่อสิ่งของตามกำลังของตน เอาศีรษะเทินเดินไป ครั้นเดินไปไกลก็เหน็ดเหนื่อย คิดว่าพวกตนมาไกลแล้ว จักพักเหนื่อยบนศิลาดาดนี้ จึงแวะจากทางไปยังที่ใกล้ศิลาดาด เมื่อเห็นพระเถระ ก็สำคัญว่าเป็นตอไม้
โจรคนหนึ่งวางห่อสิ่งของลงบนศีรษะพระเถระ โจรคนอื่น ๆ ก็วางห่อสิ่งของพิงพระเถระนั้น โจรทั้ง ๕๐๐ คนเอาห่อสิ่งของ ๕๐๐ ห่อ ล้อมรอบพระเถระ แล้วพากันนอนหลับ ตื่นขึ้นในเวลาอรุณขึ้น คว้าห่อของตน ๆ ได้ เห็นพระเถระแล้วคิดว่าเป็นอมนุษย์ จึงจะหนีไป
พระเถระกล่าวกะพวกโจรนั้นว่าอย่ากลัวเลย ท่านเป็นบรรพชิต
โจรเหล่านั้นหมอบลงที่ใกล้เท้าพระเถระ ขอให้พระเถระยกโทษ เพราะสำคัญว่าตอไม้
หัวหน้าโจรกล่าวว่าตนจักบวชในสำนักพระผู้เป็นเจ้า พวกโจรที่เหลือก็กล่าวว่าแม้พวกตนก็จักบวช พวกโจรมีฉันทะเป็นอันเดียวกัน ขอบรรพชากะพระเถระ พระเถระให้โจรเหล่านั้นทั้งหมดบวช ดุจสังกิจจสามเณร
พระขานุโกณฑัญญเถระไปสำนักพระศาสดาพร้อมด้วยภิกษุเหล่านั้น
พระศาสดาตรัสถามว่าพระขานุโกณฑัญญเถระได้อันเตวาสิกแล้วหรือ
ท่านกราบทูลเรื่องนั้น
พระศาสดาตรัสถามภิกษุเหล่านั้น ภิกษุเหล่านั้นได้ทูลรับว่า ไม่เคยเห็นอานุภาพเห็นปานนั้นของผู้อื่นเลย ด้วยเหตุนั้น พวกตนจึงบวช
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ความเป็นอยู่แม้วันเดียวของพวกเธอ ผู้ประพฤติในปัญญาสัมปทาในบัดนี้ ประเสริฐกว่าความตั้งอยู่ในกรรมของผู้มีปัญญาทรามเห็นปานนั้น เป็นอยู่ตั้ง ๑๐๐ ปี
ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
ก็ผู้ใดมีปัญญาทราม มีใจไม่ตั้งมั่น พึงเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี
ความเป็นอยู่วันเดียวของผู้มีปัญญา มีฌาน ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ของผู้นั้น
ในกาลจบเทศนา ภิกษุ ๕๐๐ รูป บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาแล้ว พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนผู้ประชุมกัน ดังนี้แล
อ่าน คาถาธรรมบท สหัสวรรค
อ่าน พระขานุโกณฑัญญเถระ