ผู้ไม่เชื่อง่าย
วันหนึ่ง ภิกษุผู้อยู่ป่าเป็นวัตร ประมาณ ๓๐ รูป ไปสู่สำนักพระศาสดา พระศาสดาทรงทราบอุปนิสัยแห่งพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลายของภิกษุเหล่านั้น ตรัสเรียกพระสารีบุตรเถระมา ตรัสถามปัญหา ปรารภอินทรีย์ ๕ อย่างนี้ว่า
สารีบุตร เธอเชื่อหรือ อินทรีย์ คือศรัทธา อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งถึงอมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
พระสารีบุตรเถระทูลแก้ปัญหานั้นอย่างนี้ว่า ท่านย่อมไม่เชื่อต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าในอินทรีย์ ๕ นี้ว่า อินทรีย์คือศรัทธา อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งถึงอมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
อินทรีย์ คือศรัทธานั่น อันชนเหล่าใดไม่รู้แล้ว ไม่สดับแล้ว ไม่เห็นแล้ว ไม่ทราบแล้ว ไม่ทำให้แจ้งแล้ว ไม่ถูกต้องแล้วด้วยปัญญา ชนเหล่านั้นพึงเชื่อต่อชนเหล่าอื่นในอินทรีย์ ๕ นั้นว่า อินทรีย์คือศรัทธา อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้ว ย่อมหยั่งถึงอมตะ มีอมตะเป็นที่สุด
ภิกษุทั้งหลายฟังคำนั้นแล้ว กล่าวกันว่า พระสารีบุตรเถระแก้ปัญหาด้วยการถือผิด ในวันนี้ พระเถระไม่เชื่อต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
พระศาสดาทรงสดับคำนั้นแล้ว ตรัสว่า พวกเธอกล่าวอะไร เราถามว่า สารีบุตร เธอเชื่อหรือว่า ชื่อว่าบุคคลผู้ไม่อบรมอินทรีย์ ๕ ไม่เจริญสมถะและวิปัสสนา สามารถเพื่อทำมรรคและผลให้แจ้งมีอยู่
สารีบุตรนั้นกล่าวว่า ไม่เชื่อว่าผู้กระทำให้แจ้งอย่างนั้น มีอยู่ สารีบุตรไม่เชื่อผลวิบากแห่งทานอันบุคคลถวายแล้ว หรือแห่งกรรมอันบุคคลกระทำแล้ว ก็หาไม่ สารีบุตรไม่เชื่อคุณของพระรัตนะ ๓ ก็หาไม่ แต่สารีบุตรไม่เชื่อต่อบุคคลอื่นในธรรม คือ ฌาน วิปัสสนา มรรค และผล อันตนได้เฉพาะแล้ว เพราะฉะนั้น สารีบุตรจึงเป็นผู้ที่อันใคร ๆ ไม่ควรติเตียน
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม ตรัสพระคาถานี้ว่า
นระใดไม่เชื่อง่าย มีปกติรู้พระนิพพานอันปัจจัยทำไม่ได้
ตัดที่ต่อ มีโอกาสอันกำจัดแล้ว มีความหวังอันคายแล้ว
ในเวลาจบพระคาถา ภิกษุประมาณ ๓๐ รูป ผู้อยู่ป่าเหล่านั้น บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลายแล้ว. พระธรรมเทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนที่เหลือ ดังนี้แล
อ่าน
คาถาธรรมบท อรหันตวรรค
อรรถกถาเรื่อง พระสารีบุตรเถระ
พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ

พระสงฆ์
อานนทธรรม
พระสงฆ์
ธรรมอันลึกซึ้ง
พระสงฆ์
ฤทธิธรรม
พระสงฆ์
ธรรมปัญญา
พระสงฆ์
มหาบุรุษ - มหาสตรี
พระสงฆ์
มหาเถรธรรม
พระสงฆ์
อารยธรรมบท