ผู้มีผ้ากาสาวะพันคอ
ท่านพระมหาโมคคัลลานะลงจากภูเขาคิชฌกูฏพร้อมกับพระลักขณเถระ เห็นอัตภาพของเหล่าเนรยิกสัตว์ มีเปรตผู้มีแต่ร่างกระดูก เป็นต้น จึงทำการยิ้มแย้ม พระลักขณเถระถามถึงเหตุที่ทำการยิ้มแย้ม จึงกล่าวว่า กาลนี้ มิใช่กาลแห่งปัญหานี้ ขอให้ถามท่านในสำนักพระตถาคต
เมื่อพระเถระถูกถามอีกครั้งในสำนักพระตถาคต จึงบอกความที่ตนเห็นเนรยิกสัตว์มีเปรตผู้มีแต่ร่างกระดูก เป็นต้น โดยนัยว่า ท่านลงจากภูเขาคิชฌกูฏ ได้เห็นภิกษุในพุทธศาสนานี้ไปสู่อากาศ แม้กายของภิกษุนั้นก็เร่าร้อน
พระศาสดาตรัสบอกความที่สัตว์เหล่านั้นบวชในศาสนาพระกัสสปทศพลแล้ว ไม่สามารถทำให้สมควรแก่บรรพชา เป็นผู้ลามก
เมื่อจะทรงแสดงผลแห่งทุจริตกรรมของภิกษุผู้ลามกทั้งหลาย ซึ่งนั่งอยู่แล้ว ณ ที่นั้น ในขณะนั้น จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
ชนเป็นอันมากมีคอพันด้วยผ้ากาสาวะ เป็นผู้มีธรรมลามก ไม่สำรวม
ชนผู้ลามกเหล่านั้น ย่อมเข้าถึงนรกเพราะกรรมลามกทั้งหลาย
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผล
อ่าน
คาถาธรรมบท นิรยวรรค
อรรถกถาเรื่อง สัตว์ผู้ถูกทุกข์เบียดเบียน