จริยา มี ๘ คือ
อิริยาปถจริยา ๑
อายตนจริยา ๑
สติจริยา ๑
สมาธิจริยา ๑
ญาณจริยา ๑
มรรคจริยา ๑
ปัตติจริยา ๑
โลกัตถจริยา ๑
ความประพฤติในอิริยาบถ ๔ ชื่อว่าอิริยาปถจริยา
ความประพฤติในอายตนะภายในและภายนอก ๖ ชื่อว่าอายตนจริยา
ความประพฤติในสติปัฏฐาน ๔ ชื่อว่าสติจริยา
ความประพฤติในฌาน ๔ ชื่อว่าสมาธิจริยา
ความประพฤติในอริยสัจ ๔ ชื่อว่าญาณจริยา
ความประพฤติในอริยมรรค ๔ ชื่อว่ามรรคจริยา
ความประพฤติในสามัญผล ๔ ชื่อว่าปัตติจริยา
ความประพฤติอันเป็นส่วนเฉพาะในพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ความประพฤติอันเป็นส่วนเฉพาะในพระปัจเจกพุทธเจ้า ความประพฤติอันเป็นส่วนเฉพาะในพระสาวก ชื่อว่า โลกัตถจริยา
อิริยาปถจริยาของบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยความปรารถนา
อายตนจริยาของท่านผู้คุ้มครองทวาร ในอินทรีย์ทั้งหลาย
สติจริยาของท่านผู้มีปรกติอยู่ด้วยความไม่ประมาท
สมาธิจริยาของท่านผู้ขวนขวายในอธิจิต
ญาณจริยาของท่านผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
มรรคจริยาของท่านผู้ปฏิบัติชอบ
ปัตติจริยาของท่านผู้บรรลุผลแล้ว
และโลกัตถจริยา เป็นส่วนเฉพาะของพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นส่วนเฉพาะของพระปัจเจกพุทธเจ้า และเป็นส่วนเฉพาะของพระสาวก
จริยา ๘ อีกประการหนึ่ง คือ
บุคคลผู้น้อมใจเชื่อย่อมประพฤติด้วยศรัทธา
ผู้ประคองไว้ ย่อมประพฤติด้วยความเพียร
ผู้ตั้งสติมั่น ย่อมประพฤติด้วยสติ
ผู้ทำความไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมประพฤติด้วยสมาธิ
ผู้รู้ชัด ย่อมประพฤติด้วยปัญญา
ผู้รู้แจ้ง ย่อมประพฤติด้วยวิญญาณ
ผู้มนสิการว่า ท่านผู้ปฏิบัติอย่างนี้
ย่อมบรรลุคุณพิเศษได้ ก็ประพฤติด้วยวิเศษจริยา
ผู้มนสิการว่ากุศลธรรมของท่านผู้ปฏิบัติอย่างนี้
ย่อมให้ต่อเนื่องกันไป ก็ประพฤติด้วยอายตนจริยา
จริยา ๘ อีกประการหนึ่ง คือ
การประพฤติด้วยทัสนะแห่งสัมมาทิฐิ ๑
การประพฤติด้วยความดำริแห่งสัมมาสังกัปปะ ๑
การประพฤติด้วยความกำหนดแห่งสัมมาวาจา ๑
การประพฤติด้วยสมุฏฐานแห่งสัมมากัมมันตะ ๑
การประพฤติด้วยความขาวผ่องแห่งสัมมาอาชีวะ ๑
การประพฤติด้วยความประคองไว้แห่งสัมมาวายามะ ๑
การประพฤติด้วยความตั้งสติมั่นแห่งสัมมาสติ ๑
การประพฤติด้วยความไม่ฟุ้งซ่านแห่งสัมมาสมาธิ ๑
จริยากถา ปัญญาวรรค พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๓๑ ข้อที่ ๗๑๕-๗๑๗