Main navigation

เหตุให้มีฤทธิ์มาก

เหตุการณ์
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ ปราสาทของมิคารมารดา ในบุพพาราม ใกล้พระนครสาวัตถี ภิกษุหลายรูป มีความฟุ้งซ่าน อวดตัว มีจิตกวัดแกว่ง ปากกล้า พูดจาอื้อฉาว ลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น คิดจะสึก ไม่สำรวมอินทรีย์ พระผู้มีพระภาคทรงให้ท่านพระมหาโมคคัลลานะทำให้ภิกษุเหล่านั้นสังเวช

พระโมคคัลลานะแสดงอิทธาภิสังขาร ทำให้ปราสาทของมิคารมารดาสะเทือนหวั่นไหวด้วยนิ้วหัวแม่เท้า ภิกษุเหล่านั้นเกิดความสลดใจ ขนพองสยองเกล้า เกิดความอัศจรรย์ เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อน ลมก็ไม่มี ปราสาทก็มีรากลึก ฝังไว้ดีแล้ว จะโยกคลอนไม่ได้ 

พระผู้มีพระภาคตรัสบอกภิกษุเหล่านั้นว่าเหตุที่ทำให้พระโมคคัลลานะมีฤทธิ์มากเพราะพระโมคคัลลานะได้เจริญ กระทำให้มาก ซึ่งอิทธิบาท ๔

การเจริญอิทธิบาท ๔ ประกอบด้วย ฉันทสมาธิ วิริยสมาธิ จิตตสมาธิ วิมังสาสมาธิ และปธานสังขาร คือ

ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสาจะไม่ย่อหย่อนเกินไป ไม่ต้องประคองเกินไป ไม่หดหู่ในภายใน ไม่ฟุ้งซ่านไปภายนอก และมีความสำคัญในเบื้องหลังและเบื้องหน้า เบื้องล่างและเบื้องบน กลางวันและกลางคืนว่าเหมือนกัน มีจิตเปิดเผย ไม่มีอะไรหุ้มห่อ อบรมจิตให้สว่างอยู่

เพราะได้เจริญให้มาก กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท ๔ เหล่านี้ ภิกษุโมคคัลลานะสามารถแสดงฤทธิ์ได้หลายอย่าง คือ จากคนเดียวเป็นหลายคน  หลายคนเป็นคนเดียว ทำให้ปรากฏหรือหายไปก็ได้ สามารถทะลุฝา กำแพง ภูเขาไปได้โดยไม่ติดขัดเหมือนไปในที่ว่าง ผุดขึ้นดำลงในแผ่นดินเหมือนในน้ำ หรือเดินบนน้ำไม่แตกเหมือนเดินบนแผ่นดิน  เหาะไปในอากาศเหมือนนก ลูบคลำพระจันทร์ พระอาทิตย์ ซึ่งมีฤทธิ์มีอานุภาพมากด้วยฝ่ามือ ใช้อำนาจทางกายไปตลอดพรหมโลกก็ได้

และย่อมกระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

 

อ่าน โมคคัลลานสูตร

อ้างอิง
โมคคัลลานสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๙ ข้อที่ ๑๑๕๔-๑๑๖๑ หน้า ๒๘๑-๒๘๓
ลำดับที่
6

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ