พระมหาโมคคัลลานะบรรลุพระอรหัต
เมื่อพระโมคคัลลานะอุปสมบทแล้ว ๗ วัน พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นพระโมคัลลานะนั่งง่วงอยู่ ณ บ้านกัลลวาลมุตตคาม แคว้นมคธ ด้วยทิพยจักษุ จึงเสด็จมาหาและตรัสบอกเหตุให้ละจากความง่วง
อุบายแก้ง่วง ๘ อย่าง
- เมื่อมีสัญญาอย่างไรอยู่ ความง่วงนั้นย่อมครอบงำได้ พึงทำไว้ในใจซึ่งสัญญานั้นให้มาก
- พึงตรึกตรองพิจารณาถึงธรรมตามที่ได้สดับแล้ว ได้เรียนมาแล้วด้วยใจ
- พึงสาธยายธรรมตามที่ได้สดับมาแล้ว ได้เรียนมาแล้วโดยพิสดาร
- พึงยอนช่องหูทั้งสองข้าง เอามือลูบตัว
- พึงลุกขึ้นยืน เอาน้ำล้างตา เหลียวดูทิศทั้งหลาย แหงนดูดาวนักษัตรฤกษ์
- พึงทำในใจถึงเอาโลกสัญญา ตั้งความสำคัญในกลางวันและกลางคืนว่าเหมือนกัน มีใจเปิดเผยอยู่ ไม่มีอะไรหุ้มห่อ ทำจิตให้เกิดแสงสว่าง
- พึงอธิษฐานจงกรม กำหนดหมายเดินกลับไปกลับมา สำรวมอินทรีย์ ใจไม่คิดไปในภายนอก
- พึงสำเร็จสีหไสยา คือนอนตะแคงเบื้องขวา ซ้อนเท้าเหลื่อมเท้า มีสติสัมปชัญญะ ทำความหมายในอันจะลุกขึ้น พอตื่นแล้วพึงรีบลุกขึ้นด้วยตั้งใจว่า จักไม่ประกอบความสุขในการนอนการเอนข้าง การเคลิ้มหลับ
พระผู้มีพระภาคทรงตรัสสอนพระโมคคัลลานะ ไม่ให้ชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล เพราะถ้าในตระกูลมีกิจหลายอย่าง ไม่ใส่ใจภิกษุผู้มาแล้ว ภิกษุย่อมเก้อเขิน และมีความคิดฟุ้งซ่านว่ามีใครยุยงให้เราแตกในสกุลนี้ บุคคลจึงไม่ควรพูดถ้อยคำซึ่งจะเป็นเหตุให้เถียงกัน เพราะจะเกิดการพูดมาก เมื่อเกิดความคิดฟุ้งซ่านขึ้น ย่อมไม่สำรวม จิตย่อมห่างจากสมาธิ
และทรงตรัสว่าพระองค์ไม่สรรเสริญความคลุกคลีด้วยหมู่ชน ทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิต แต่ทรงสรรเสริญความคลุกคลีด้วยเสนาสนะอันเงียบเสียง ไม่อื้ออึง ปราศจากการสัญจรของหมู่ชน ควรเป็นที่ประกอบกิจของผู้ต้องการความสงัด ที่หลีกเร้น
ธรรมทั้งปวงไม่ควรถือมั่น
พระพุทธเจ้าตรัสว่า ข้อปฏิบัติที่ทำให้ภิกษุเป็นผู้หลุดพ้นแล้วเพราะสิ้นตัณหา มีความสำเร็จ มีธรรมเป็นแดนเกษมจากโยคะ เป็นพรหมจารี มีที่สุด ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เมื่อได้สดับว่าธรรมทั้งปวงไม่ควรถือมั่น ย่อมรู้ชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญา ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง เมื่อได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งสุข ทุกข์ และไม่สุข ไม่ทุกข์ ย่อมพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงในเวทนาเหล่านั้น พิจารณาเห็นความคลายกำหนัด ความดับ ความสละคืน เมื่อนั้นย่อมไม่ยึดมั่นอะไรในโลก ไม่มีความสะดุ้ง ย่อมปรินิพพานเฉพาะตัวทีเดียว รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี
เมื่อท่านพระมหาโมคคัลลานะฟังแล้ว เจริญวิปัสสนาก็ได้บรรลุพระอรหัตผล