สารีบุตร โมคคัลลานะปริพาชกได้ดวงตาเห็นธรรม
พระมหาโมคคัลลานะ มีชื่อเดิมว่าโกลิตะ ส่วนพระสารีบุตร มีชื่อเดิมว่าอุปติสสะ ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และเป็นบุตรแห่งสกุลผู้มั่งคั่งเหมือนกัน ทั้งสองรู้สึกเบื่อชีวิตการครองเรือนที่วุ่นวาย จึงพาบริวารไปขอบวชอยู่ในสำนักสัญชัยปริพพาชก เรียนลัทธิของสัญชัยได้หมด จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยสอนหมู่ศิษย์ต่อไป แต่ทั้งสองยังไม่พอใจในคำสอนของสัญชัยปริพาชก เพราะไม่ใช่แนวทางที่ตนต้องการ จึงตกลงกันที่จะแสวงหาอาจารย์ที่สามารถชี้แนะแนวทางที่ดีกว่านี้ หากใครได้โมกขธรรมก่อน ก็ให้บอกแก่อีกฝ่ายหนึ่ง
เช้าวันหนึ่ง สารีบุตรปาริพาชกเห็นท่านพระอัสสชิกำลังบิณฑบาตในพระนครราชคฤห์ มีมรรยาทน่าเลื่อมใส นัยน์ตาทอดลง ถึงพร้อมด้วยอิริยาบถ คิดในใจว่าภิกษุรูปนี้คงเป็นพระอรหันต์ หรือเป็นผู้ได้บรรลุพระอรหัตมรรคเป็นแน่ จึงเดินตามไปเรื่อย ๆ เพื่อรอให้ท่านบิณฑบาตเสร็จ แล้วเข้าไปหาพระอัสสชิ ถามท่านว่าท่านบวชเฉพาะใคร ใครเป็นศาสดาของท่าน หรือท่านชอบใจธรรมของใคร ซึ่งพระอัสสชิตอบว่า ท่านบวชเฉพาะพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นเป็นศาสดาของท่าน และท่านชอบใจธรรมของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
พระอัสสชิได้แสดงธรรมของพระผู้มีพระภาคตามที่สารีบุตรปาริพาชกขอ ว่าธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ พระตถาคตทรงแสดงเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับแห่งธรรมเหล่านั้น ดวงตาเห็นธรรม ได้เกิดแก่สารีบุตรปาริพาชกว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา บรรลุพระโสดาบัน
เมื่อสารีบุตรปริพาชกพบโมคคัลลานปริพาชก ก็เล่าเรื่องที่ได้พบพระอัสสชิ รวมถึงกล่าวธรรมที่พระอัสสชิทรงแสดงแก่ตน โมคคัลลานปริพาชกมีดวงตาเห็นธรรม บรรลุพระโสดาบัน