บุพจริยาของพระโมคคัลานะ
พระมหาโมคคัลลานะเถระ เมื่อจะประกาศบุพจริยาของตนจึงกล่าวคำพยากรณ์ที่ตนได้รับในสมัยพระพุทธเจ้าอโนมทัสสี
เวลานั้น พระโมคคัลลานะเป็นนาคราช มีนามชื่อว่าวรุณ ได้นิมนต์พระสัมพุทธเจ้าให้เสด็จเข้าไปยังภพของตน แล้วถวายพระกระยาหารแด่พระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์ให้อิ่มหนำด้วยข้าวและน้ำ พระมหาวีรเจ้าทรงอนุโมทนาแล้ว ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
ผู้ใดได้บูชาสงฆ์และได้บูชาพระพุทธเจ้าผู้นายกของโลก ด้วยจิตอันเลื่อมใส ผู้นั้นจักไปสู่เทวโลก จักเสวยเทวรัชสมบัติสิ้น ๓๓ ครั้ง จักเสวยราชสมบัติในแผ่นดิน ครอบครองพสุธา ๑๐๘ ครั้ง และจะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๕ ครั้ง โภคสมบัติอันนับไม่ถ้วนจักบังเกิดแก่ผู้นั้นในขณะนั้น
ในกัลป์นับไม่ถ้วนแต่กัลป์นี้ พระศาสดาพระนามว่าโคดมโดยพระโคตร ซึ่งสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระโมคคัลานะจักเป็นบุตรพราหมณ์ มีนามว่าโกลิตะ เขาจักออกบวช จักได้เป็นพระสาวกองค์ที่สองของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าโคดม จักปรารภความเพียร มอบกายถวายชีวิต ถึงที่สุดแห่งฤทธิ์ กำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะจักปรินิพพาน
เมื่อพระโมคัลลานะจะประกาศความประพฤติชั่วจึงกล่าวว่า
เราคลุกคลีมิตรชั่ว ตกอยู่ในอำนาจกามราคะ มีใจโกรธเคือง ได้ฆ่ามารดาและบิดา เราเกิดในกำเนิดใด ๆ คือ จะเป็นนรกหรือมนุษย์ก็ตาม จักถูกทุบศีรษะตาย กรรมเช่นนี้จักมีแก่เราในเวลาจะตายแม้ในชาตินี้
เราหมั่นประกอบในวิเวก ยินดีในสมาธิภาวนา กำหนดรู้อาสวะทั้งปวง อยู่อย่างผู้ไม่มีอาสวะ
แม้แผ่นดินอันลึก หนา เราผู้ถึงที่สุดแห่งฤทธิ์ พึงทำให้ไหวได้ ด้วยนิ้วหัวแม่มือซ้าย
เราไม่เห็นอัสมิมานะ ไม่มีความถือตัว เรากระทำจิตให้มีความเคารพ แม้กระทั่งสามเณร
เราสั่งสมกรรมใดไว้ เราบรรลุถึงภูมิแห่งกรรมนั้น เป็นผู้บรรลุถึงธรรม เครื่องสิ้นอาสวะแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งแล้ว พระพุทธศาสนา เราทำเสร็จแล้ว
อ่าน มหาโมคคัลลานเถราปทาน