อาสาทำปาฏิหาริย์แทนพระพุทธเจ้า
สมัยหนึ่ง พวกเดียรถีย์ท้าพระพุทธเจ้าประลองอิทธิปาฏิหาริย์ที่เมืองสาวัตถี มีผู้กราบทูลเสนอจะทำปาฏิหาริย์แทนพระองค์ด้วยคิดว่าเมื่อมหาชนเห็นว่าอานุภาพของพวกเขาหล่านั้นยังเพียงนี้ แล้วอานุภาพของพระพุทธเจ้าจะเป็นเช่นไร พวกเดียรถีย์ยังไม่ทันเห็นพระองค์ก็จะหนี ไป ดังนี้
อนาคามีอุบาสิกาชื่อ ฆรณี จะทำปาฏิหาริย์โดยทำแผ่นดินใหญ่ในจักรวาลหนึ่งให้เป็นน้ำ แล้วดำลงไปเหมือนนางนกเป็ดน้ำ แสดงตนที่ขอบปากแห่งจักรวาลด้านปาจีนทิศ ปัศจิมทิศ อุตรทิศ ทักษิณทิศ รวมทั้งตรงกลางด้วย
ท่านจุลอนาถบิณฑิกะจะทำปาฏิหาริย์โดยนิรมิตอัตภาพเหมือนพรหมมีประมาณ ๑๒ โยชน์ จะปรบดุจดังพรหมด้วยเสียงเช่นกับมหาเมฆกระหึ่มในท่ามกลางบริษัท
สามเณรีชื่อ วีรา อายุ ๗ ขวบ ผู้บรรลุปฏิสัมภิทา จะทำปาฏิหาริย์โดยนำภูเขาสิเนรุ ภูเขาจักรวาล และภูเขาหิมพานต์ตั้งเรียงไว้ในที่นี้ แล้วจะออกจากภูเขานั้น ๆ ไป โดยไม่ขัดข้องดุจนางหงส์
สามเณรชื่อ จุนทะ อายุ ๗ ขวบ ผู้เป็นขีณาสพ บรรลุปฏิสัมภิทา จะทำปาฏิหาริย์โดยจับต้นหว้าใหญ่ที่เป็นธงแห่งชมพูทวีปที่ลำต้นแล้วเขย่า นำผลหว้าใหญ่มาให้บริษัทเคี้ยวกิน และจะนำดอกแคฝอยมา แล้วถวายบังคมพระองค์
อุบลวรรณาเถรีจะทำปาฏิหาริย์โดยแสดงบริษัทมีประมาณ ๓๒ โยชน์โดยรอบ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ อันบริษัทมีประมาณ ๓๖ โยชน์โดยกลมแวดล้อม แล้วมาถวายบังคมพระองค์
พระมหาโมคคัลลานเถระจะทำปาฏิหาริย์โดยวางเขาหลวงสิเนรุไว้ในระหว่างฟัน แล้วเคี้ยวกินภูเขานั้นดุจพืช เมล็ดผักกาด จะม้วนแผ่นดินใหญ่ดุจเสื่อลำแพน แล้วหนีบไว้ระหว่างนิ้วมือ จะหมุนแผ่นดินใหญ่ให้เป็นเหมือนแป้นหมุนภาชนะดินของช่างหม้อ แล้วให้มหาชนเคี้ยวกิน จะทำแผ่นดินไว้ในมือซ้าย แล้ววางสัตว์เหล่านั้นไว้ในทวีปอื่นด้วยมือขวา จะทำเขาสิเนรุให้เป็นด้ามร่ม ยกแผ่นดินใหญ่ขึ้นวางไว้บนภูเขาสิเนรุ เอามือข้างหนึ่งถือไว้คล้ายภิกษุมีร่มในมือ จงกรมไปในอากาศ
หลังจากที่ทุกท่านได้บันลือสีหนาท พระผู้มีพระภาคทรงทราบอานุภาพของทุกคน แต่ก็ไม่ทรงอนุญาตผู้ใดในการทำปาฏิหาริย์ด้วยเหตุว่า พระองค์เป็นผู้มีธุระที่หาผู้เสมอมิได้ ผู้อื่นที่ชื่อว่าสามารถนำธุระของพระองค์ไปได้ไม่มี