การพยากรณ์อรหัตตผล
พระโมคคัลลานะกล่าวกับภิกษุทั้งหลายว่า เมื่อภิกษุในธรรมวินัยนี้พยากรณ์อรหัตตผลว่า เราทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี
พระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคตผู้ได้ฌาน ฉลาดในสมาบัติ ฉลาดในจิตของผู้อื่น ฉลาดในการกำหนดรู้จิตของผู้อื่น ย่อมซักถาม สอบถาม ไล่เลียงอยู่ กำหนดรู้ใจด้วยใจแล้ว ย่อมทราบชัดภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า ภิกษุผู้ละธรรม ๑๐ ประการนี้แล้ว จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ หากยังไม่ละธรรม ๑๐ ประการนี้แล้ว ความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปได้
ธรรม ๑๐ ประการที่พึงละ คือ
เป็นผู้มักโกรธ มีใจอันความโกรธกลุ้มรุมแล้วอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความโกรธนี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้ผูกโกรธไว้ มีใจอันความผูกโกรธไว้กลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความผูกโกรธนี้เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้มีความลบหลู่ มีใจอันความลบหลู่กลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความลบหลู่นี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้ตีเสมอ มีใจอันความตีเสมอกลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความตีเสมอนี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้มีความริษยา มีใจอันความริษยากลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความริษยานี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้ตระหนี่ มีใจอันความตระหนี่กลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความตระหนี่นี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้โอ้อวด มีใจอันความโอ้อวดกลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความโอ้อวดนี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้มีมารยา มีใจอันมารยากลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งมารยานี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้มีความปรารถนาลามก มีใจอันความปรารถนาลามกกลุ้มรุมอยู่โดยมาก ก็ความกลุ้มรุมแห่งความปรารถนาลามกนี้ เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
เป็นผู้มีสติหลงลืม ถึงความทอดทิ้งธุระในระหว่างคุณวิเศษเบื้องบน ด้วยการบรรลุคุณวิเศษเบื้องต่ำ ก็การถึงความทอดทิ้งธุระในระหว่างนี้เป็นความเสื่อมในธรรมวินัย
อ่าน พยากรณสูตร