Main navigation

เห็นยักษ์ตีศีรษะพระสารีบุตรเถระ

เหตุการณ์
ยักษ์ตนหนึ่งเห็นพระสารีบุตรปลงผมแล้วใหม่ ๆ นั่งเข้าสมาธิอย่างหนึ่งอยู่กลางแจ้งในคืนเดือนหงาย จึงได้ตีศรีษะพระสารีบุตรอย่างแรง

ยักษ์ตนหนึ่งได้กล่าวกะยักษ์ผู้เป็นสหายว่า เราจะตีที่ศีรษะของพระสารีบุตร

ยักษ์ผู้เป็นสหายได้กล่าวกะยักษ์นั้นว่า ท่านอย่าตีศีรษะสมณะเลย สมณะนั้นมีคุณยิ่ง มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ถึงสามครั้ง

ยักษ์นั้นไม่เชื่อยักษ์ผู้เป็นสหาย ได้ตีที่ศีรษะของท่านพระสารีบุตรเถระ ยักษ์นั้นได้ตกลงไปสู่นรกใหญ่ในที่นั้นเอง

ท่านพระมหาโมคคัลลานะได้เห็นยักษ์ที่ตีศีรษะท่านพระสารีบุตรด้วยจักษุเพียงดังทิพย์อันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์ แล้วเข้าไปหาท่านพระสารีบุตร แล้วถามท่านพระสารีบุตรว่ายังอดทนได้หรือ ความเจ็บปวดอะไร ๆ ไม่มีหรือ

พระสารีบุตรตอบว่า ยังอดทนได้  พอเป็นอยู่ได้ แต่รู้สึกเจ็บศรีษะเล็กน้อย

พระโมคัลลานะกล่าวว่าท่านพระสารีบุตรมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก ยักษ์ตนหนึ่งได้ตีศีรษะของท่านอย่างรุนแรง การตีเช่นนี้สามารถทำให้พระยาช้างสูงตั้ง ๗ ศอก ๘ ศอก จมดินได้ หรือสามารถทำลายยอดภูเขาใหญ่ก็ได้ พระสารีบุตรได้เพียงกล่าวว่า พึงอดทนได้ พอเป็นอยู่ได้ แต่บนศีรษะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย

พระสารีบุตรกล่าวว่า ท่านมหาโมคคัลลานะมีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมากที่เห็นยักษ์  ส่วนพระสารีบุตรนั้น แม้แต่ปีศาจคลุกฝุ่นสักตนก็ยังไม่เห็น

พระผู้มีพระภาคได้ทรงสดับการเจรจาปราศรัยของท่านทั้งสองด้วยทิพยโสตธาตุอันบริสุทธิ์ล่วงโสตธาตุของมนุษย์ แล้วได้ทรงเปล่งอุทานในเวลานี้ว่า  

จิตของผู้ใดเปรียบด้วยภูเขาหิน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ไม่กำหนัดในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ไม่โกรธเคืองในอารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งการโกรธเคือง จิตของผู้ใดอบรมแล้วอย่างนี้ ทุกข์จักถึงผู้นั้นแต่ที่ไหน


อ่าน ชุณหสูตร

 

อ้างอิง
ชุณหสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๙๓-๙๖ หน้า ๙๔-๙๕
ลำดับที่
33

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ