Main navigation

ผู้มีปัญญาคุ้มครองธรรม

เหตุการณ์
พระผู้มีพระภาคทรงปรารภอำมาตย์ผู้วินิจฉัยธรรม

วันหนึ่ง พวกภิกษุเที่ยวบิณฑบาตในบ้านใกล้ประตูด้านทิศอุดรของเมืองสาวัตถี กลับจากบิณฑบาตแล้วเดินกลับพระเชตวันวิหารจากกลางนคร  พอดีฝนตกหนัก ภิกษุเหล่านั้นเข้าไปพักที่ศาลวินิจฉัยความ ได้เห็นพวกมหาอำมาตย์ผู้วินิจฉัยรับสินบน ทำเจ้าของทรัพย์ไม่ให้เป็นเจ้าของ ทำคนผิดให้เป็นคนถูก คนถูกให้เป็นคนผิด จึงคิดว่ามหาอำมาตย์เหล่านี้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม พวกเราเคยคิดว่า มหาอำมาตย์เหล่านี้วินิจฉัยโดยธรรม

เมื่อฝนหยุดแล้ว ภิกษุเหล่านั้นมาเข้าเฝ้าพระศาสดา กราบทูลเรื่องราวทั้งปวง

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกอำมาตย์ผู้วินิจฉัยเป็นผู้ตกอยู่ในอำนาจอคติ มีฉันทาคติ เป็นต้น ตัดสินความโดยผลุนผลัน ไม่ชื่อว่าเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม ส่วนพวกที่ไต่สวนความผิดแล้ว ตัดสินความโดยละเอียดลออ ตามสมควรแก่ความผิดนั่นแหละ เป็นผู้ชื่อว่าตั้งอยู่ในธรรม" 

แล้วทรงตรัสพระคาถานี้ว่า
“บุคคลไม่ชื่อว่าตั้งอยู่ในธรรม เพราะเหตุที่นำคดีไปโดยความผลุนผลัน, ส่วนผู้ใดเป็นบัณฑิต วินิจฉัยคดีและไม่ใช่คดีทั้งสอง ย่อมนำบุคคลเหล่าอื่นไปโดยความละเอียดลออ โดยธรรมสม่ำเสมอ ผู้นั้นอันธรรมคุ้มครองแล้ว เป็นผู้มีปัญญา เรากล่าวว่า ตั้งอยู่ในธรรม”

ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผล เป็นต้น


คาถาธรรมบท ธัมมัตถวรรค
อรรถกถาเรื่อง มหาอำมาตย์ผู้วินิจฉัย

อ้างอิง
คาถาธรรมบท ธัมมัตถวรรค พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๒๕/๒๙/๓๔ และอรรถกถาเรื่อง มหาอำมาตย์ผู้วินิจฉัย
ลำดับที่
17

สถานที่

ไม่ระบุ

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ