Main navigation

ทางเกิดแห่งปัญญา

เหตุการณ์
พระโปฐิละเป็นธรรมกถึก เป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกในศาสนาของพระพุทธเจ้า ๗ พระองค์ บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป พระศาสดาทรงดำริว่า ภิกษุนี้ไม่มีความคิดว่า เราจะสลัดทุกข์ออกจากตน ทรงยังพระโปฐิละให้สังเวชด้วยการเรียกพระโปฐิละว่า คุณใบลานเปล่า

พระโปฐิละคิดว่า ตนทรงไว้ซึ่งพระไตรปิฎกพร้อมทั้งอรรถกถา บอกธรรมแก่ภิกษุ ๕๐๐ รูป ถึง ๑๘ คณะใหญ่ พระศาสดายังตรัสเรียกตนเนืองๆ ว่า "คุณใบลานเปล่า" เพราะความไม่มีคุณวิเศษ มีฌานเป็นต้น จึงเกิดความสังเวช เข้าไปสู่ป่าแล้วทำสมณธรรม

พระโปฐิละเข้าไปหาพระสังฆเถระ พระอนุเถระ เพื่อให้พระเถระเหล่านั้นสอนธรรมแก่ตน พระสังฆเถระคิดว่า พระโปฐิละมีมานะ เพราะอาศัยการเรียน จึงส่งพระโปฐิละไปยังสำนักของสามเณรอายุ ๗ ขวบ มานะทั้งหลายของพระโปฐิละถูกพระเถระกำจัดแล้ว จึงขอให้สามเณรสอนธรรมแก่ตนโดยจะยอมทำตามโอวาทของสามเณร

สามเณรให้พระโปฐิละก้าวลงสู่สระน้ำทั้งนุ่งห่มที่มีราคาแพง แล้วกล่าวว่า 

ในจอมปลวกแห่งหนึ่ง มีช่องอยู่ ๖ ช่องในช่องเหล่านั้น เหี้ยเข้าไปภายในโดยช่องๆ หนึ่ง  บุคคลประสงค์จะจับมัน จึงอุดช่องทั้ง ๕ ทำลายช่องที่ ๖ แล้ว จึงจับเอาโดยช่องที่มันเข้าไป บรรดาทวารทั้งหก แม้ท่านจงปิดทวารทั้ง ๕ อย่างนั้นแล้ว จงเริ่มตั้งบริกรรมนี้ไว้ในมโนทวาร

ด้วยนัยประมาณเท่านี้ ความแจ่มแจ้งได้มีแก่ภิกษุผู้เป็นพหูสูต ดุจการลุกโพลงขึ้นแห่งดวงประทีป พระโปฐิละกล่าวว่า คำเท่านี้แหละพอละ แล้วหยั่งลงในกายที่เปื้อนธุลี ปรารภสมณธรรม

พระศาสดาซึ่งทอดพระเนตรจาก ณ ที่ไกล ได้มีดำริว่า พระโปฐิละเป็นผู้มีปัญญากว้างขวางดุจแผ่นดินด้วยประการใด การตั้งตนไว้ด้วยประการนั้น ย่อมสมควร แล้วทรงเปล่งพระรัศมีไปกล่าวพระคาถาว่า

ปัญญาย่อมเกิดเพราะการประกอบแล ความสิ้นไปแห่งปัญญาเพราะการไม่ประกอบ บัณฑิตรู้ทาง ๒ แพร่งแห่งความเจริญและความเสื่อมนั่นแล้ว พึงตั้งตนไว้โดยประการที่ปัญญาจะเจริญขึ้นได้      

ในกาลจบพระคาถา พระโปฐิลเถระก็ได้ตั้งอยู่ในพระอรหัต



คาถาธรรมบท มรรควรรค
อรรถกถาเรื่อง พระโปฐิลเถระ

อ้างอิง
คาถาธรรมบท มรรควรรค พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๓๐ หน้า ๓๖ และอรรถกถาเรื่องพระโปฐิลเถระ
ลำดับที่
7

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ