Main navigation

การเห็นภัยในความประมาท

เหตุการณ์
ภิกษุรูปหนึ่งเรียนกัมมัฏฐานจากสำนักพระศาสดา แล้วเข้าสู่ป่า พากเพียรพยายามเท่าไรก็ไม่อาจบรรลุพระอรหัตได้ จึงเดินทางกลับมายังสำนักพระศาสดาเพื่อจะให้พระศาสดาตรัสบอกพระกัมมัฏฐานให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

ขณะที่ภิกษุเดินทางมาในระหว่างทาง เห็นไฟป่าไหม้ จึงรีบขึ้นไปบนยอดเขาโล้นลูกหนึ่ง นั่งดูไฟ แล้วถือเอาเป็นอารมณ์ว่า ไฟนี้เผาเชื้อทั้งหลายมากและน้อยไป ฉันใด แม้ไฟคือ อริยมรรคญาณ ก็จักพึงเผาสังโยชน์ทั้งหลายมากและน้อยไป ฉันนั้น
 
พระศาสดาประทับนั่งในพระคันธกุฎี ทรงทราบวาระจิตของภิกษุนั้นแล้ว ตรัสว่า อย่างนั้นนั่นแหละ ภิกษุ สังโยชน์ทั้งหลาย ทั้งละเอียดและหยาบ อันอยู่ภายในของสัตว์ทั้งหลาย ดุจเชื้อมากบ้างน้อยบ้าง ควรเผาสังโยชน์เหล่านั้นด้วยไฟคือญาณ ทำให้หมดไปสิ้นไป ไม่เกิดขึ้นได้อีก
 
แล้วตรัสพระคาถาว่า

ภิกษุยินดีในความไม่ประมาท 
หรือเห็นภัยในความประมาท 
ย่อมเผาสังโยชน์ทั้งละเอียดและหยาบไป 
เหมือนไฟเผาเชื้อน้อยใหญ่ไป ฉะนั้น
 
ในกาลจบพระคาถา พระภิกษุนั้นเผาสังโยชน์ทั้งหมดแล้ว บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย แล้วเหาะมาทางอากาศ สรรเสริญพระสรีระของพระศาสดา ซึ่งมีวรรณะดุจทองคำ ถวายบังคม แล้วหลีกไป



คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรค
อรรถกถาเรื่อง ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง

อ้างอิง
คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรค พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ ข้อที่ ๑๒ หน้า ๑๔ และอรรถกถาเรื่อง ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง
ลำดับที่
18

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ