ปริหานสูตร
พระสารีบุตรแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
บุคคลผู้มีธรรมอันเสื่อม ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้
ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ไม่ฟังธรรมที่ไม่เคยฟัง ๑
ธรรมที่ภิกษุนั้นฟังแล้วย่อมถึงความเลอะเลือน ๑
ธรรมที่ภิกษุนั้นเคยถูกต้องด้วยใจในกาลก่อนย่อมไม่ปรากฏแก่เธอ ๑
ภิกษุนั้นไม่รู้ธรรมที่ตนยังไม่รู้ ๑
บุคคลผู้มีธรรมอันไม่เสื่อม ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้
ภิกษุในธรรมวินันยนี้ย่อมฟังธรรมที่ตนไม่เคยฟังมา ๑
ธรรมที่ภิกษุนั้นเคยฟังแล้ว ย่อมไม่ถึงความเลอะเลือน ๑
ธรรมที่ภิกษุนั้นเคยถูกต้องด้วยใจในกาลก่อนย่อมปรากฏ ๑
ภิกษุนั้นย่อมรู้ธรรมที่ตนยังไม่รู้ ๑
ท่านทั้งหลายพึงศึกษาว่า เราทั้งหลายจักเป็นผู้ฉลาดในวาระจิตของตนด้วยการพิจารณาว่า ธรรมเหล่านี้มีอยู่แก่เราหรือว่าไม่มี
เป็นผู้ไม่มีอภิชฌาอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาทอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ปราศจากถีนมิทธะอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่านอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ข้ามพ้นความสงสัยอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ไม่มักโกรธอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ไม่เศร้าหมองอยู่โดยมากหรือไม่
เป็นผู้ได้ความปราโมทย์ในธรรมภายในหรือไม่
เป็นผู้ได้ความสงบแห่งจิตภายในหรือไม่
เป็นผู้ได้ความเห็นแจ้งธรรมด้วยปัญญาอันยิ่งหรือไม่
ถ้าภิกษุไม่พิจารณาเห็นกุศลธรรมเหล่านี้ทั้งหมดในตน พึงทำความพอใจ ความพยายาม ความอุตสาหะ ความขะมักเขม้น ความไม่ท้อถอย สติและสัมปชัญญะ ให้มีประมาณยิ่ง เพื่อได้เฉพาะซึ่งกุศลธรรมเหล่านี้ทั้งหมด
แต่ถ้าภิกษุพิจารณาอยู่ พิจารณาเห็นกุศลธรรมบางอย่างในตน ไม่พิจารณาเห็นกุศลธรรมบางอย่างในตน ภิกษุนั้นพึงตั้งอยู่ในกุศลธรรมที่พิจารณาเห็นในตน แล้วพึงทำความพอใจ ความพยายาม ความอุตสาหะ ความขะมักเขม้น ความไม่ท้อถอย สติและสัมปชัญญะให้มีประมาณยิ่ง เพื่อได้เฉพาะซึ่งกุศลธรรมทั้งหลายที่ไม่พิจารณาเห็นในตนเหล่านั้น
ก็ถ้าภิกษุพิจารณาอยู่ พิจารณาเห็นกุศลธรรมเหล่านี้ทั้งหมดในตน ภิกษุนั้นควรตั้งอยู่ในกุศลธรรมเหล่านี้ทั้งหมด แล้วพึงทำความเพียรให้ยิ่งขึ้นไปเพื่อความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
อ่าน ปริหานสูตร