Main navigation

นกุลปิตาสูตร

ว่าด้วย
กายเปรียบด้วยฟองไข่
เหตุการณ์
นกุลบิดาทูลขอพระผู้มีพระภาคให้สั่งสอนด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ตนผู้แก่เฒ่าแล้ว มีกายกระสับกระส่าย เจ็บป่วยเนือง ๆ

 

พระผู้มีพระภาคแสดงธรรมแก่นกุลบิดาว่า กายนี้กระสับกระส่าย เป็นดังว่าฟองไข่ อันผิวหนังหุ้มไว้ ก็บุคคลผู้บริหารกายนี้อยู่ พึงเป็นผู้ไม่มีโรคได้เพียงครู่เดียว จะมีอะไรเล่า นอกจากความเป็นคนเขลา เพราะเหตุนั้นแหละ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเรามีกายกระสับกระส่ายอยู่ จิตของเราจักไม่กระสับกระส่าย

พระสารีบุตรได้ถามนกุลบิดว่าได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคหรือไม่ว่า ด้วยเหตุเท่าไรหนอบุคคลจึงชื่อว่าเป็นผู้มีกายกระสับกระส่ายและเป็นผู้มีจิตกระสับกระส่าย และก็ด้วยเหตุเท่าไรหนอ บุคคลแม้เป็นผู้มีกายกระสับกระส่าย แต่หาเป็นผู้มีจิตกระสับกระส่ายไม่

นกุลบิดาจึงขอให้พระสารีบุตรทำให้ทำแจ่มแจ้งแก่ตน

พระสารีบุตรกล่าวว่า

บุคคลชื่อว่าเป็นผู้มีกายกระสับกระส่ายด้วย มีจิตกระสับกระส่ายด้วย

ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้วในโลกนี้ มิได้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยะ มิได้รับแนะนำในอริยธรรม มิได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ มิได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม

ย่อมเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยความเป็นตน ๑  
ย่อมเห็นตนมีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑  
ย่อมเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในตน  ๑
ย่อมเห็นตนในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑  
เป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่นว่า เราเป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ 
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของเรา

เมื่อเขาตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นย่อมแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป เพราะรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป  โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาสจึงเกิดขึ้น

ผู้มีกายกระสับกระส่าย  แต่มีจิตไม่กระสับกระส่าย

อริยสาวกผู้ได้สดับแล้วในธรรมวินัยนี้ ผู้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ผู้ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ผู้ได้รับแนะนำดีแล้วในอริยธรรม ผู้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ผู้ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ผู้ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม

ย่อมไม่เห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยความเป็นตน ๑
ย่อมไม่เห็นตนมีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑
ย่อมไม่เห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในตน ๑
ย่อมไม่เห็นตนในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ๑
ไม่เป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่นว่า เราเป็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ของเรา

เมื่ออริยสาวกนั้นไม่ตั้งอยู่ด้วยความยึดมั่น รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นั้นย่อมแปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป เพราะรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แปรปรวนเป็นอย่างอื่นไป โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาสจึงไม่เกิดขึ้น


อ่าน นกุลปิตาสูตร

อ้างอิง
นกุลปิตาสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๗ ข้อที่ ๑-๔ หน้า ๑-๕
ลำดับที่
21

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ