ผู้อยู่ใกล้พระนิพพาน
พระนิคมติสสเถระอุปสมบทในศาสนาของพระศาสดา เป็นผู้มักน้อย สันโดษ สงัด ปรารภความเพียร ท่านเที่ยวบิณฑบาตเฉพาะในบ้านของญาติ ไม่มาร่วมบิณฑบาตเมื่อผู้อื่นมาทำทาน ภิกษุจึงได้กราบทูลแด่พระศาสดา
พระศาสดาตรัสถามพระติสสเถระ พระเถระกราบทูลว่าท่านไม่คลุกคลีกับพวกญาติ อาศัยพวกญาติเพื่อได้อาหารที่พอจะกลืนกินได้ อาหารที่เลวหรือประณีตซึ่งพอยังอัตภาพให้เป็นไปได้ ไม่มีประโยชน์อะไรกับการแสวงหาอาหารอีกจึงไม่มา ความคลุกคลีกับหมู่ญาติไม่มีแก่ท่าน
พระศาสดาจึงประทานสาธุการแก่พระเถระ ตรัสว่าพระเถระเป็นผู้มักน้อยไม่อัศจรรย์ เพราะความเป็นผู้มักน้อยนี้เป็นแบบแผนประเพณีของพระศาสดา และทรงเล่าจุลลสุวกราชชาดก ว่าด้วย นกแขกเต้า
ในอดีตกาล มีพระยานกแขกเต้าตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ที่ต้นมะเดื่อ เมื่อผลของต้นไม้ที่ตนอาศัยอยู่สิ้นแล้ว จึงจิกกินหน่อใบหรือเปลือกซึ่งยังเหลืออยู่ ดื่มน้ำในแม่น้ำคงคา เป็นสัตว์ที่มีความปรารถนาน้อยอย่างยิ่ง สันโดษ ไม่ไปในที่อื่น ด้วยคุณคือความปรารถนาน้อยและสันโดษของพระยานกแขกเต้านั้น ภพของท้าวสักกะได้ไหว ท้าวสักกะทรงเห็นเหตุการณ์นั้นจึงทดลองพระยานกแขกเต้า ทรงบันดาลให้ต้นไม้นั้นเหี่ยวแห้งหักแล้วเหลืออยู่แต่ตอเท่านั้น พระยานกแขกเต้าจิกกินขุยจากตอของต้นไม้ ไม่ไปที่อื่น
ท้าวสักกะจึงถามเหตุผล พระยานกแขกเต้าตอบว่าเคยบริโภคจากต้นไม้นี้มานาน ถึงจะรู้ว่าต้นไม้นี้ไม่มีผลแล้ว ก็ต้องรักษาความไมตรีไว้ให้เหมือนดังก่อน เป็นคุณแห่งมิตรธรรม นกตัวอื่นครั้นรู้ว่าต้นไม้นั้นไม่มีผล ก็ละทิ้งต้นไม้นั้นไปเสีย นกเหล่านั้นโง่เขลา มีปัญญาที่เห็นแก่ตัว มิตรภาพแห่งความเป็นเพื่อนตกไป ท้าวสักกะจึงให้พรแก่นกนั้น ทำต้นมะเดื่อให้มีผลไม่หมด
แล้วตรัสว่า ความเป็นผู้มีความปรารถนาน้อยนี้เป็นแบบแผน เป็นประเพณีของพระศาสดา ธรรมดาภิกษุพึงเป็นผู้มีความมักน้อยเหมือนพระติสสะผู้มีปกติอยู่ในนิคม
แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า
ภิกษุยินดีแล้วในความไม่ประมาท มีปกติเห็นภัยในความประมาท ไม่ควรเพื่อจะเสื่อมจากมรรคและผล ตั้งอยู่แล้วในที่ใกล้แห่งพระนิพพานทีเดียว
ในกาลจบพระคาถา พระติสสเถระผู้มีปกติอยู่ในนิคมบรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย แม้ชนเหล่าอื่นเป็นอันมากได้เป็นอริยบุคคล มีพระโสดาบัน เป็นต้น
อ่าน คาถาธรรมบท อัปปมาทวรรค
อ่าน พระติสสเถระผู้มีปกติอยู่ในนิคม