Main navigation

ยอดนักรบในสงคราม

เหตุการณ์
พระศาสดา ทรงปรารภนางกุณฑลเกสีเถรี ธิดาเศรษฐีที่ได้โจรเป็นสามี โจรต้องการฆ่านางเพื่อชิงทรัพย์ แต่นางใช้ปัญญาฆ่าโจรได้

ธิดาเศรษฐีคนหนึ่งได้เห็นโจรที่จะนำไปสู่ลานประหาร ก็มีจิตปฏิพัทธ์ ต้องการแต่งงานกับโจรผู้นั้น จึงได้อ้อนวอนบิดามารดา บิดานางจึงได้ส่งห่อภัณฑะพันหนึ่งแก่ราชบุรุษผู้คุมโจร ราชบุรุษได้ปล่อยโจรไปและฆ่าบุรุษอื่นแทน เศรษฐีได้ยกธิดาให้แก่โจรนั้น
 
ธิดาเศรษฐีตกแต่งด้วยเครื่องประดับมากมาย โจรต้องการเครื่องประดับจึงคิดอุบายพาภรรยาไปฆ่า โดยแกล้งทำเป็นป่วยและบอกว่าได้บนบานไว้ต่อเทวดาบนภูเขา ถ้ารอดชีวิตจะตั้งพลีกรรมต่อเทพดา นางจึงได้จัดแจงพลีกรรมทุกอย่างและโจรได้พานางขึ้นสู่ภูเขา เมื่อไปถึงยอดเขา โจรได้บอกว่าจะฆ่านางเพื่อชิงทรัพย์ นางจึงใช้ปัญญาผลักโจรลงไปในเหวถึงแก่ความตาย เทวดาผู้สถิตอยู่บนยอดเขาที่ทิ้งโจร เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงให้สาธุการแก่หญิงนั้น แล้วกล่าวว่า
 
บุรุษนั่นเป็นบัณฑิตในที่ทุกสถาน ก็หาไม่ แม้สตรีผู้มีปัญญาเห็นประจักษ์ ก็เป็นบัณฑิตได้ในที่นั้น ๆ หญิงผู้มีปัญญาก็เป็นบัณฑิตได้
 
ธิดาเศรษฐีคิดว่าหากกลับบ้านไปเล่าให้บิดามารดาฟังท่านคงไม่เชื่อจึงทิ้งเครื่องประดับไว้ที่นั้น เข้าไปสู่ป่า ได้บรรพชาบวชเป็นปริพาชิกาในสำนักของพวกปริพาชก เมื่อบวชแล้วได้ถามว่า อะไรเป็นประโยชน์สูงสุดแห่งบรรพชา ปริพาชกเหล่านั้นกล่าวว่า บุคคลกระทำบริกรรมในกสิณ ๑๐ แล้ว พึงยังฌานให้บังเกิดบ้าง พึงเรียนวาทะพันหนึ่งบ้าง นี้เป็นประโยชน์สูงสุดแห่งบรรพชา
 
เมื่อนางเรียนวาทะพันหนึ่งจบแล้ว จึงจากไป ปริพาชกได้กล่าวกับนางว่าหากพบคฤหัสถ์ที่โต้ปัญหากับนางได้ให้เป็นบาทบริจาริกาของผู้นั้น หากเป็นบรรพชิต ให้บรรพชาในสำนักของผู้นั้น  

นางได้ชื่อว่า ชัมพุปริพาชิกา ได้เที่ยวถามปัญหากับผู้ที่ตนพบเห็น ไม่มีผู้ใดสามารถตอบคำถามของนาง นางจึงก่อกองทรายไว้ใกล้ประตูบ้าน ปักกิ่งหว้าบนกองทรายนั้น กล่าวว่า หากใครสามารถจะโต้ปัญหากับนางได้ให้เหยียบกิ่งหว้า
 
พระสารีบุตรเถระออกบิณฑบาตได้พบเห็นเด็กยืนล้อมกิ่งหว้า จึงสอบถามและได้ให้เด็กเหยียบกิ่งไม้ นางปริพาชิกานั้นได้ไปสู่สำนักของพระเถระและได้ถามวาทะพันหนึ่ง พระเถระแก้ปัญหาที่นางถามได้ทุกข้อ พระเถระได้ถามปัญหาว่า อะไร ชื่อว่าหนึ่ง นางไม่รู้ พระเถระได้ตอบว่า คือพุทธมนต์ นางจึงขอบรรพชา
 
เมื่อนางได้บรรพชาอุปสมบทแล้ว มีชื่อว่ากุณฑลเกสีเถรี  ล่วงไป ๒-๓ วันเท่านั้น นางได้บรรลุพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย
 
พระศาสดาเสด็จมาเห็นพวกภิกษุสนทนาเรื่องของนางว่า การฟังธรรมของนางกุณฑลเกสีเถรีไม่ได้มาก กิจแห่งบรรพชิตของนางถึงที่สุดแล้ว ได้ยินว่า นางทำมหาสงครามกับโจรคนหนึ่ง แล้วได้ชัยชนะ
 
พระศาสดาจึงตรัสว่า อย่านับธรรมที่ท่านแสดงแล้วว่า น้อยหรือมาก บทที่ไม่เป็นประโยชน์แม้ ๑๐๐ บท ไม่ประเสริฐ ส่วนบทแห่งธรรมแม้บทเดียวประเสริฐกว่า อนึ่ง เมื่อบุคคลชนะโจรภายนอก หาชื่อว่าชนะไม่ ส่วนบุคคลชนะโจร คือกิเลสอันเป็นไปภายใน จึงชื่อว่าชนะ
 
เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
 
ก็ผู้ใดพึงกล่าวคาถาตั้งร้อย ซึ่งไม่ประกอบด้วยบทเป็นประโยชน์ บทแห่งธรรมบทเดียวที่บุคคลฟังแล้ว สงบระงับได้ ประเสริฐกว่า (การกล่าวคาถาตั้ง ๑๐๐ ของผู้นั้น)
 
ผู้ใดพึงชนะมนุษย์พันหนึ่ง คูณด้วยพันหนึ่ง (คือ ๑ ล้าน) ในสงคราม ผู้นั้นหาชื่อว่า เป็นยอดแห่งชนผู้ชนะในสงครามไม่ ส่วนผู้ใดชนะตนคนเดียวได้ ผู้นั้นแล เป็นยอดแห่งผู้ชนะในสงคราม
 
ในเวลาจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น 



อ่าน พระกุณฑลเกสีเถรี
อ่าน คาถาธรรมบท สหัสสวรรค

 

อ้างอิง
พระกุณฑลเกสีเถรี คาถาธรรมบท สหัสสวรรค พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏ เล่มที่ ๔๑ ข้อที่ ๑๘ หน้า ๔๓๔-๔๔๕
ลำดับที่
20

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ