ไม่ได้ทรัพย์เมื่อหนุ่ม
บุตรเศรษฐีคนหนึ่งเกิดในตระกูลมีสมบัติ ๘๐ โกฏิ มารดาบิดาของเขาคิดว่ามีทรัพย์สินมากที่จะมอบให้บุตรใช้สอยอย่างสบาย ไม่จำเป็นต้องทำอะไร จึงให้เขาศึกษาศิลปะการฟ้อนขับและประโคมอย่างเดียว และเขาได้แต่งงานกับธิดาของเศรษฐีผู้มีสมบัติ ๘๐ โกฏิ ซึ่งบิดามารดาของนางก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน เมื่อมารดาบิดาของคนทั้งสองถึงแก่กรรม ทรัพย์ ๑๖๐ โกฏิ จึงตกเป็นของพวกเขา
พวกนักเลงสุราได้ชักชวนให้บุตรเศรษฐีดื่มสุรา บุตรเศรษฐีใช้ทรัพย์ไปอย่างสุรุ่ยสุร่าย ต่อมาไม่นาน ทรัพย์ ๘๐ โกฏิของตนก็หมดไป และยังได้ไปนำทรัพย์ของภรรยามาใช้จนหมดสิ้นรวมทั้งได้ขายสมบัติทั้งหมดจนหมดตัว ต้องพาภรรยาไปอาศัยบ้านคนอื่นอยู่ ต้องเที่ยวขอทาน
พระศาสดาทอดพระเนตรเห็นบุตรเศรษฐีคอยรับโภชนะเหลือจากภิกษุหนุ่มและสามเณร จึงทรงแย้มพระโอษฐ์พระอานนทเถระทูลถามถึงเหตุที่ทรงแย้ม พระศาสดาจึงตรัสว่า
บุตรเศรษฐีผู้มีทรัพย์มากได้ผลาญทรัพย์เสีย ๑๖๐ โกฏิ พาภรรยาเที่ยวขอทานอยู่ในนครนี้
ถ้าบุตรเศรษฐีไม่ผลาญทรัพย์ให้หมดสิ้น ประกอบการงานในปฐมวัย จักได้เป็นเศรษฐีชั้นเลิศ และถ้าจักออกบวช ก็จักบรรลุอรหัต แม้ภรรยาของเขาก็จักดำรงอยู่ในอนาคามิผล
ถ้าไม่ผลาญทรัพย์ให้หมดไป ประกอบการงานในมัชฌิมวัย จักได้เป็นเศรษฐีชั้นที่ ๒ ออกบวชจักได้เป็นอนาคามี แม้ภรรยาของเขาก็จักดำรงอยู่ในสกทาคามิผล
ถ้าไม่ผลาญทรัพย์ให้สิ้นไป ประกอบการงานในปัจฉิมวัย จักได้เป็นเศรษฐีชั้นที่ ๓ แม้ออกบวชก็จักได้เป็นสกทาคามี แม้ภรรยาของเขาก็จักดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล
แต่เดี๋ยวนี้ บุตรเศรษฐีนั้นทั้งเสื่อมแล้วจากโภคะของคฤหัสถ์ ทั้งเสื่อมแล้วจากสามัญญผล
แล้วจึงตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า
พวกคนเขลาไม่ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่ได้ทรัพย์ในคราวยังเป็นหนุ่มสาว ย่อมซบเซา ดังนกกระเรียนแก่ซบเซาอยู่ในเปือกตมที่หมดปลา ฉะนั้น
พวกคนเขลาไม่ประพฤติพรหมจรรย์ ไม่ได้ทรัพย์ในคราวยังเป็นหนุ่มสาว ย่อมนอนทอดถอนถึงทรัพย์เก่า เหมือนลูกศรที่ตกจากแล่ง ฉะนั้น
ในกาลจบเทศนา ชนเป็นอันมากบรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น
อ่าน บุตรเศรษฐีมีทรัพย์มาก
อ่าน คาถาธรรมบท ชราวรรค