อาสวะตั้งอยู่ไม่ได้
นางปุณณาทาสีของเศรษฐีคนหนึ่งในกรุงราชคฤห์ ได้ซ้อมข้าวเปลือกอยู่ในตอนกลางคืน ตัวของนางชุ่มไปด้วยเหงื่อ จึงไปยืนตากลมอยู่ภายนอกเพื่อพักผ่อน และได้เห็นภิกษุทั้งหลาย ผู้ฟังธรรมแล้วไปสู่เสนาสนะของตน นางปุณณาเห็นภิกษุเหล่านั้นเที่ยวไปบนภูเขา คิดว่า นางถูกทุกข์เบียดเบียน จึงไม่ได้หลับ เพราะเหตุไร ภิกษุทั้งหลายจึงไม่หลับ แล้วทำความเข้าใจเอาเองว่า ความไม่ผาสุกมีแก่ภิกษุบางรูป หรืออุปัทวเหตุเพราะงู มีในที่นั่นเป็นแน่
ในเวลาเช้าตรู่ นางทำขนมรำห่อไปเพื่อกินโดยเดินไปยังท่าน้ำ ซึ่งพระศาสดาก็เสด็จดำเนินไปทางนั้นเหมือนกัน เมื่อนางเห็นพระศาสดาแล้ว คิดว่า ในวันอื่น ๆ เมื่อพบพระศาสดา นางไม่มีไทยธรรม เมื่อมีไทยธรรม ก็ไม่พบพระศาสดา บัดนี้ นางมีไทยธรรม ทั้งได้พบพระศาสดา นางพึงถวายขนมนี้ นางถวายขนมและกราบทูลขอธรรมที่พระองค์ทรงเห็นแล้วจงสำเร็จแก่นาง พระศาสดาได้ทรงกระทำอนุโมทนาว่าจงสำเร็จอย่างนั้น
นางปุณณาคิดว่าพระศาสดาทรงรับขนมก็จริง แต่พระองค์จักไม่เสวยขนมนั้น คงประทานให้แก่กาหรือสุนัขแล้วเสด็จไปยังพระราชมณเฑียรของพระราชาหรือเรือนของมหาอำมาตย์ เสวยโภชนะอันประณีตแน่แท้
พระศาสดาทรงทราบวาระจิตของนาง ทรงนั่งลงแล้วเสวยขนมของนางปุณณา เมื่อเสร็จภัตกิจ ทรงถามนางปุณณาว่าเพราะเหตุไรนางจึงดูหมิ่นสาวกทั้งหลาย
นางปุณณาทูลว่ามิได้ดูหมิ่น แต่คิดว่านางไม่หลับก็เพราะอุปัทวันตรายคือทุกข์นี้ พวกภิกษุทั้งหลายไม่หลับเพื่ออะไรกัน ความไม่ผาสุกคงมีแก่ภิกษุบางรูป หรืออุปัทวันตรายเพราะงู จักมีเป็นแน่
พระศาสดาทรงสดับคำของนางปุณณานั้นแล้ว จึงตรัสว่า
นางไม่หลับเพราะอันตรายคือทุกข์ของตัวนาง ส่วนสาวกทั้งหลายของพระองค์ไม่หลับเพราะความเป็นผู้ประกอบเนือง ๆ ซึ่งธรรมเครื่องตื่นอยู่ทุกเมื่อ
ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า
อาสวะทั้งหลายของผู้ตื่นอยู่ทุกเมื่อ ผู้มีปกติตามศึกษาทั้งกลางวันกลางคืน ผู้น้อมไปแล้วสู่พระนิพพาน ย่อมถึงความตั้งอยู่ไม่ได้
ในกาลจบเทศนา นางปุณณาดำรงอยู่ในโสดาปัตติผล
อ่าน นางปุณณทาสี
อ่าน คาถาธรรมบท โกธวรรค