ผู้เป็นที่รักของมหาชน
วันหนึ่ง พระศาสดามีภิกษุ ๕๐๐ เป็นบริวารพร้อมด้วยพระอสีติมหาเถระ เสด็จเข้าไปกรุงราชคฤห์เพื่อบิณฑบาต ได้ทอดพระเนตรเห็นเด็ก ๕๐๐ คน ยกกระเช้าขนมออกจากเมืองแล้วไปสวน เด็กเหล่านั้นถวายบังคมพระศาสดา แล้วก็หลีกไป ไม่กล่าวกะภิกษุแม้สักรูปหนึ่งให้รับขนม
พระพุทธเจ้าตรัสว่ เด็กเหล่านั้นไม่นิมนต์เราหรือพวกเธอด้วยขนมก็จริง ถึงกระนั้น ภิกษุผู้เป็นเจ้าของขนม ก็กำลังมาข้างหลัง ฉันขนมเสียก่อนแล้วไป จึงควร
พวกเด็ก ๆ เห็นพระมหากัสสปเถระเดินมาข้างหลัง เกิดความรักขึ้น สรีระเต็มเปี่ยมด้วยกำลังแห่งปีติ ยกขนมพร้อมทั้งกระเช้า กล่าวกะพระเถระให้รับนิมนต์
พระเถระกล่าวให้เด็กเหล่านั้นถือไทยธรรมไปแบ่งส่วนถวายพระพุทธเจ้าและภิกษุสงฆ์
ภิกษุทั้งหลายโพนทะนาว่า พวกเด็กถวายภิกษาเพราะเห็นแก่หน้า ไม่ต้อนรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือพระมหาเถระทั้งหลายด้วยขนม เห็นพระมหากัสสปเถระแล้ว จึงถือเอากระเช้าขนมมา
พระศาสดาทรงยกพระมหากัสสปเป็นนิทัศนะ แล้วตรัสว่า
ภิกษุผู้เช่นกับมหากัสสปย่อมเป็นที่รักของเหล่าเทวดาและมนุษย์ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายย่อมทำบูชาด้วยปัจจัย ๔ แก่เธอ
แล้วตรัสพระคาถานี้ว่า
ชนย่อมทำท่านผู้สมบูรณ์ด้วยศีลและทัสสนะ ผู้ตั้งอยู่ในธรรม ผู้มีปกติกล่าวแต่วาจาสัตย์ ผู้กระทำการงานของตนนั้นให้เป็นที่รัก
เมื่อจบเทศนา เด็กเหล่านั้นแม้ทั้งหมดตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล
อ่าน เด็ก ๕๐๐ คน
อ่าน คาถาธรรมบท ปิยวรรค