Main navigation

พระรัฐปาลเถระ

ว่าด้วย
ผู้เลิศด้านบวชด้วยศรัทธา
เหตุการณ์
บุพกรรมและคาถาสุภาษิตของพระรัฐปาลเถระ

ในสมัยก่อนพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ พระรัฐปาลเกิดในตระกูลคฤหบดี เมื่อบิดามารดาเสียชีวิต จึงได้รับมรดกทั้งหมด ได้พิจารณาว่า บิดา ปู่ ทวดของตนไม่สามารถไม่สามารถนำทรัพย์นี้ไปได้เมื่อตาย ท่านควรจะนำไป จึงได้แจกจ่ายทานแก่คนเดินเท้าคนกำพร้า และได้อุปัฏฐากดาบสรูปหนึ่ง ได้บำเพ็ญบุญมากมาย แล้วไปบังเกิดในเทวโลก เมื่อมาเกิดยังโลกมนุษย์อีกครั้ง ก็ได้เกิดในตระกูลที่สามารถรวบรวบดินแดนที่แบ่งแยกกัน

ในสมัยพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ พระรัฐปาลเถระได้เห็นพระพุทธเจ้าปทุมุตตระแต่งตั้งภิกษุรูปหนึ่งว่าเป็นเลิศกว่าภิกษุผู้บวชด้วยศรัทธา มีจิตเลื่อมใส จึงได้ตั้งความปรารถนาเช่นนั้น และได้รับพยากรณ์จากพระผู้มีพระภาคเจ้าปทุมุตตระว่าจักเป็นผู้เลิศกว่าภิกษุผู้บวชด้วยศรัทธาในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคดม

ท่านได้ถวายช้างเป็นพาหนะแก่พระพุทธเจ้าปทุมุตตระ และได้ซื้อที่สร้างอารามถวายสงฆ์ มีปราสาทในวิหารนั้น ๕๔,๐๐๐ หลัง ถวายพระพุทธเจ้า

ในสมัยพระพุทธเจ้าปุสสะ ได้กระทำบุญกิริยาแก่พี่ชายต่างมารดาของพระพุทธเจ้าปุสสะที่อุปัฏฐากพระพุทธเจ้าปุสสะอยู่

สั่งสมกุศลเป็นอันมาก ท่องเที่ยวในสุคติภูมิเท่านั้น

ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดในเรือนเศรษฐี มีบริวารเป็นอันมาก ได้เข้าเฝ้าและฟังธรรมพระศาสดาเมื่อทรงจาริกมายังแคว้นกุรุ เกิดศรัทธาออกบวชในสำนักพระเถระรูปหนึ่ง บรรลุพระอรหัต ได้คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖

เมื่อบรรลุพระอรหัตแล้วได้ทูลขอพระพุทธเจ้าเพื่อมาเยี่ยมบิดามารดา ได้พบหญิงในเรือนพยายามประเล้าประโลมปรารถนาให้ท่านสึก ท่านจึงกล่าวว่า

กายเป็นแผลอันกระดูก ๓๐๐ ท่อนยกขึ้นแล้ว กระสับกระส่าย คนพาลพากันดำริหวังมาก ไม่มีความยั่งยืนตั้งมั่น

รูปอันปัจจัยกระทำให้วิจิตรด้วยแก้วมณีและกุณฑล หุ้มด้วยหนังมีร่างกระดูกอยู่ภายใน งามพร้อมไปด้วยผ้าต่าง ๆ มีเท้าอันฉาบทาด้วยครั่งสด มีหน้าอันไล้ทาทำให้คนพาลลุ่มหลงได้ ผมทั้งหลายบุคคลตบแต่งเป็นลอน นัยน์ตาทั้งสองหยอดด้วยยาตา สามารถทำให้คนพาลลุ่มหลงได้ แต่ไม่สามารถทำให้ผู้แสวงหาฝั่งลุ่มหลง

และได้แสดงธรรมแก่พระเจ้าโกรพยะว่า

โลกอันชรานำเข้าไป ไม่ยั่งยืน
โลกไม่มีผู้ต้านทาน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน
โลกไม่เป็นของตน จำต้องละสิ่งทั้งปวงไป
โลกพร่องอยู่เป็นนิตย์ ไม่รู้จักอิ่มเป็นทาสตัณหา

ท่านเห็นหมู่มนุษย์ที่มีทรัพย์ในโลกนี้ ได้ทรัพย์แล้วไม่ให้ทานเพราะความลุ่มหลง ได้ทรัพย์แล้วทำการสั่งสมไว้ และปรารถนาอยากได้ยิ่งขึ้นไป

นักปราชญ์ทั้งหลายกล่าวชีวิตว่าเป็นของน้อย ไม่ยั่งยืน มีความแปรปรวนเป็นธรรมดา ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ย่อมถูกต้องผัสสะเหมือนกัน ทั้งคนพาลถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจเบียดเบียน ย่อมอยู่เป็นทุกข์เพราะความเป็นพาล

ส่วนนักปราชญ์อันผัสสะถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว เพราะฉะนั้นแล ปัญญาจึงจัดว่าประเสริฐกว่าทรัพย์ เพราะปัญญาเป็นเหตุให้บรรลุนิพพาน แต่คนพาลไม่ปรารถนาจะบรรลุ พากันทำกรรมชั่วต่าง ๆ อยู่ในภพน้อยภพใหญ่เพราะความหลง

ผู้ใดทำกรรมชั่วแล้ว ผู้นั้นจะต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏสงสารร่ำไป

กามทั้งหลายงามวิจิตร มีรสอร่อย น่ารื่นรมย์ใจ ย่อมย่ำยีจิตด้วยรูปแปลก ๆ เพราะได้เห็นโทษในกามคุณทั้งหลาย จึงออกบวช

ในกาลต่อมา พระศาสดาได้ทรงสถาปนาพระเถระไว้ในตำแหน่งผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้บวชด้วยศรัทธา

 

อ่าน รัฐปาลเถรคาถา
อ่าน รัฐปาลเถรปทาน

อ้างอิง
รัฐปาลเถรคาถา พระไตรปิฎก ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๖ ข้อที่ ๓๘๘ หน้า ๓๒๔-๓๒๘
ลำดับที่
2

สถานการณ์

การปฏิบัติธรรม

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ