พระวนวัจฉเถระ
ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า พระอัตถทัสสี พระวนวัจฉเถระ ถือกำเนิดเป็นเต่า อัตภาพเท่าเรือลำเล็ก ได้ทูลเชิญพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นหลังตนเสด็จข้ามฟาก ไปอีกฝั่งแม่น้ำของแม่น้ำวินตา ด้วยบุญกรรมนั้น เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย บวชเป็นดาบส ตั้ง ๑๐๐ ครั้งเป็นเวลาไม่น้อย ได้เป็นผู้มีปกติอยู่ในป่าอย่างเดียว
ในกาลของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่ากัสสปะ ไปเกิดในกำเนิดแห่งนกพิราบ เห็นภิกษุผู้อยู่ในป่ารูปหนึ่งมีปกติอยู่ด้วยเมตตา ยังจิตให้เลื่อมใส ครั้นจุติจากกำเนิดนกพิราบนั้นแล้วบังเกิดในเรือนมีตระกูลในพระนครพาราณสี เจริญวัยแล้ว เกิดความสังเวช ออกบวช เข้าไปสะสมบุญกรรมเป็นอันมาก ล้วนเป็นอุปนิสัยแห่งวิวัฏฏะ
เขาท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ในพุทธุปบาทกาลนี้ ถือปฏิสนธิในเรือนของพราหมณ์ นามว่าวัจฉโคตร ในพระนครกบิลพัสดุ์ และได้ถือกำเนิดในป่า มีโคตรและชื่อว่า วัจฉะ เป็นสหายเล่นฝุ่นกับพระโพธิสัตว์ ต่อมาปรากฏนามว่า วนวัจฉะ โดยที่มีความยินดีในป่า
ในเวลาต่อมา เมื่อพระมหาสัตว์เสด็จออกบรรพชาก็ออกบวชเป็นดาบสอยู่ในป่าหิมวันต์ ด้วยคิดว่า จักอยู่ในป่าร่วมกับสิทธัตถกุมาร จนเมื่อได้สดับว่า พระสิทธัตถะตรัสรู้อภิสัมโพธิญาณแล้ว จึงไปยังสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า บวชแล้วเรียนกัมมัฏฐานอยู่ในป่า ขวนขวายวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้ทำให้แจ้งซึ่งพระอรหัต
ท่านได้พรรณาถึงป่าที่ตนอยู่แล้ว ได้ภาษิตคาถาว่า
ภูเขาทั้งหลายอันล้วนแล้วด้วยหิน มีสีเขียวดังเมฆ ดูรุจิเรกงามดี มีธารวารีเย็นใสสะอาด เป็นที่พำนักของผู้สะอาด ดารดาษไปด้วยแมลงค่อมทอง ภูเขาเหล่านั้นย่อมทำให้เรารื่นรมย์ใจ
อ่าน วนวัจฉเถรคาถา