สักกสูตร
พระอานนท์กล่าวกับเจ้ามหานามะศากยะว่า
ญาณเกิดแก่ผู้มีใจเป็นสมาธิ หาเกิดแก่ผู้ที่มีใจไม่เป็นสมาธิไม่
พระผู้มีพระภาคตรัสศีล สมาธิ ปัญญา ที่เป็นของพระเสขะไว้ก็มี ตรัสศีล สมาธิ ปัญญา ที่เป็นของพระอเสขะไว้ก็มี
ศีลที่เป็นของพระเสขะ
เป็นผู้มีศีล
สำรวมในปาติโมกขสังวร
ถึงพร้อมด้วยมรรยาท
เป็นผู้มีปกติเห็นภัยในโทษแม้เพียงเล็กน้อย
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
สมาธิที่เป็นของพระเสขะ
สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
บรรลุปฐมฌาน มีวิตกวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่
บรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร เพราะวิตกวิจารสงบไป มีปีติและสุขเกิดแต่สมาธิอยู่
ภิกษุมีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะเสวยสุขด้วยนามกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุข
บรรลุจตุตถฌานไม่มีทุกข์ ไม่มีสุข เพราะละสุข ละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่
ปัญญาที่เป็นของพระเสขะ (อริยสัจสี่)
รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า
นี้ทุกข์
นี้เหตุให้เกิดทุกข์
นี้ความดับทุกข์
นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
พระอริยสาวกผู้ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญาอย่างนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วยปัญญา
อ่าน สักกสูตร