Main navigation

เที่ยวไปคนเดียวดีกว่า

เหตุการณ์
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุทั้งหลายว่า หากไม่ได้สหายผู้มีปัญญา การเที่ยวไปคนเดียวประเสริฐกว่า

พระศาสดา คราเมื่อประทับหลีกอยู่พระองค์เดียวในช่วงพรรษา ช้างปาลิไลยกะเป็นผู้ดูแลกิจทุกอย่าง ได้ทรงตรัสธรรมเทศนาแก่เหล่าภิกษุ ๕๐๐ ผู้เข้าไปฟังธรรมว่า การที่บุคคลเมื่อได้สหายผู้มีรูปเช่นนี้ อยู่ร่วมกัน สมควรแล้ว เมื่อบุคคลไม่ได้ การเที่ยวไปคนเดียวเท่านั้นเป็นการประเสริฐ แล้วทรงภาษิตพระคาถาว่า

ถ้าว่า บุคคลพึงได้สหายผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีธรรมเครื่องอยู่อันดี เป็นนักปราชญ์ ไว้เป็นผู้เที่ยวไปด้วยกันไซร้ เขาพึงครอบงำอันตรายทั้งสิ้นเสียแล้ว พึงเป็นผู้มีใจยินดี มีสติ เที่ยวไปกับสหายนั้น

หากว่า บุคคลไม่พึงได้สหายผู้มีปัญญาเครื่องรักษาตัว มีธรรมเครื่องอยู่เป็นอันดี เป็นนักปราชญ์ ไว้เป็นผู้เที่ยวไปด้วยกันไซร้ เขาพึงเที่ยวไปคนเดียว เหมือนพระราชาทรงละแว่นแคว้นที่ทรงชนะเด็ดขาดแล้ว หรือเหมือนช้างชื่อว่ามาตังคะ ละโขลงแล้ว เที่ยวไปในป่าตัวเดียว ฉะนั้น

ความเที่ยวไปแห่งบุคคลคนเดียวประเสริฐกว่า เพราะคุณเครื่องเป็นสหาย ไม่มีอยู่ในชนพาล บุคคลนั้นพึงเป็นผู้ผู้เดียวเที่ยวไป เหมือนช้างชื่อมาตังคะ ตัวมีความขวนขวายน้อยเที่ยวไปอยู่ในป่าฉะนั้น และไม่พึงทำบาปทั้งหลาย

ในกาลจบเทศนา ภิกษุ ๕๐๐ รูป ดำรงอยู่ในพระอรหัต


อ่าน สัมพหุลภิกษุ
อ่าน คาถาธรรมบท นาควรรค

อ้างอิง
สัมพหุลภิกษุ คาถาธรรมบท นาควรรค พระไตรปิฎก ฉบับมหามกุฏ เล่มที่ ๔๓ ข้อที่ ๓๓ หน้า ๒๕๔-๒๕๙
ลำดับที่
13

สถานที่

ป่ารักขิตวัน

พระไตรปิฎกเสียงชุดอื่นๆ